วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

< Review > Sennheiser Momentum หนึ่งนี้ที่รอคอยมานาน

Sennheiser Momentum       








        เป็นหนึ่งในหูฟังที่ผมรอคอยตั้งแต่รู้ว่ามันเตรียมจะออกมาวางตลาดหลังจากผิดหวังกับ HD800 และ HD700 ที่ทั้งเรื่องมาก ขับยาก และเสียงจัดจ้าน แถมราคาโหดสุดๆ ก็เลยมารอลุ้นรุ่นล่างๆแทนเผื่อจะแก้อาการผิดหวังให้แฟน sennheiser อย่างผมได้ 

       จริงๆผมเองก็ไม่ได้คาดหวังในเรื่องคุณภาพเสียงเท่าไหร่ แค่ชอบ design ที่ออกแนว vintage แบบนี้ จริงๆผมเคยเกือบจะซื้อหูฟังของ panasonic ที่ดีไซน์ vintage แบบนี้เช่นกัน แต่เปลี่ยนใจ เพราะค่อนข้างกลัวเรื่องคุณภาพเสียงซึ่งโดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบ signature ของ panasonic เท่าไหร่ พอวันแรกที่ momentum มีเดโมที่ Sennheiser Shop ผมก็ตรงไปที่ fortune เพื่อลองทันที แต่ด้วยความไม่คาดหวัง ก็เลยทำให้รู้สึกดีในตอนที่ฟังครั้งแรกๆ น่าเสียดายฟังได้ไม่นานก็ต้องไปทำธุระต่อ ก็เลยหมายมั่นปั้นมือว่าวันหลังจะกลับมาลองอีกรอบ

       ปรากฏว่าทาง Gen S ติดต่อมาเพื่อให้ผมได้ลองเอามารีวิวดู มันก็เลยเข้าแก๊ปเลยครับ พูดตามตรงตอนแรกผมก็กะว่าจะซื้อมาเองแล้วด้วยซ้ำ แต่ติดตรงไม่ว่างไปซื้อแล้วช่วงหลังๆก็แทบจะไม่ค่อยได้ฟังเพลงด้วย หลังๆผมจะฟังอะไรที่มันมีสาระกับตัวเองมากกว่าฟังเพลง ก็เลยไม่ได้เน้นใช้งานหูฟังเท่าไหร่เลยไม่ได้ไป พอทาง Gen S ให้มาลองผมก็ Happy เลย เป็นความลงตัวที่พอดีและก็ขอขอบคุณด้วยครับ ที่ใจเราตรงกัน




รูปร่างภายนอก


    ตัว momentum เอง พูดตามตรงคือมันเป็น Full-size ที่กลายพันธุ์แล้ว ถ้าจะจัด category ของมัน มันก็ควรจะเป็น Portable Full-size เพราะพกพาได้สะดวกและกินกำลังขับไม่มาก เพราะตัวหูฟังมันแค่ 18 โอห์มเท่านั้น  ดังนั้นสามารถเอาไปใช้งานกับมือถือได้สบายๆ เรียกว่าตรงกับเทรนด์การใช้ชีวิตของยุคนี้ ซึ่งจริงๆมันก็ควรจะมาตั้งแต่สมัยที่หูฟังเริ่มบูมแล้วนะครับ พวกที่เล่นยุคแรกๆของบ้านเราน่าจะ happy ถ้ามีพวก Portable Full-size มาตั้งแต่สมัยนั้น ผมยุคนู้นเวลาแบกหูฟังไปฟังข้างนอกทีลำบากมากๆ 

    วัสดุที่เลือกเอามาใช้ทำหูฟังเป็นของเกรดดีล้วนๆ ตั้งแต่หนังที่ใช้หุ้มส่วน headband นี่ใช้หนังแท้เลยนะครับมาหุ้ม ซึ่งเป็นการหุ้มแบบเย็บขอบด้วยแล้วล๊อตซ้ำด้วยน๊อตแบบสแตนเลสอย่างดี ส่วนช่วงก้านก็เป็นก้านแบบสแตนเลสปัด และใช้การปรับระดับที่ตัวก้านล๊อคของ housing แทน ซึ่งจะร่องปรับระดับอยู่ แต่การปรับเลื่อนนุ่มนวลและ smooth มากๆ น่าเสียดายที่พับไม่ได้เท่านั้นเอง

    ตัวเคสที่ให้มาค่อนข้างหรูเลยครับ ด้านนอกจะหุ้มด้วยผ้า แต่ส่วนตรงซิปจะมาหนังหุ้มเย็บเพื่อบังแนวซิปอีกที อันนี้เป็นเรื่องความตั้งใจในการเก็บรายละเอียดทุกจุดจริงๆครับ จริงๆมันไม่ต้องมีก็ได้ แต่พอมีแล้วมันก็ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น ด้านในเคสนอกจากจะมีที่วางหูฟังแล้ว ยังมีช่องตรงกลางเพื่อถอดเก็บสายและยังเก็บแจ๊คแปลงไว้ได้อีกด้วย

    ส่วนสายสามารถถอดเปลี่ยนได้นะครับ ตัวสายในชุดจะมีมาให้สองแบบ คือ สายแบบธรรมดา กับ สายที่มาพร้อมชุด Control Talk ทั้งควบคุมเครื่องและคุยโทรศัพท์ไปพร้อมๆกัน และแน่นอน ใช้ควบคุมได้เฉพาะ iphone ไม่สามารถใช้กับ Android ได้ ถ้าใช้กับ Android ก็จะได้แค่กดรับกับวางสายเท่านั้นเอง แต่ตัว control ดูแข็งแรงมากครับ เอามาวางบนมือจะรู้สึกมีน้ำหนักพอสมควร ส่วนช่วงแจ๊คเป็นแจ๊ครุ่นใหม่ที่สามารถปรับเป็น L หรือเป็นแบบตรงก็ได้ ผมว่าตรงแจ๊คนี่ออกแบบมาได้ดีมากๆ

    ด้วยความที่น้ำหนักหูฟังค่อนข้างเบา ทำให้ใส่ได้สบายไม่หนักหัวและไม่ถูกก้าน headband กดหัว แต่จะมีความรู้สึกว่ามันหนีบเล็กน้อย เพราะเค้าต้องการให้มันไม่หลุดจากหัวได้ง่ายๆ แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะใส่แล้วอึดอัดนะครับ เท่าที่ผมใส่ฟังนานๆ ก็ไม่รู้สึกว่าบีบให้อีดอัดแต่อย่างใด รู้สึกถึงแค่ความกระชับอย่างเดียว แต่ถ้าใครใช้แล้วรู้สึกไม่สบายหัว ก็ใช้เทคนิคง้างๆมันบ่อยๆก็ได้ครับ แล้วมันจะหนีบน้อยลง แต่โดยส่วนตัวแนะนำว่าให้ปล่อยมันแบบนี้แหละดีที่สุด เพราะจะกระชับรับกับหัวเรา ทำให้ไม่หลุดง่ายและได้คุณภาพเสียงเต็มๆด้วย


เรื่องของเสียง

        จุดเด่นของหูฟังตัวนี่คือ soundstage ที่กว้างมากๆครับ กว้างอย่างไม่น่าเชื่อ รวมไปถึงความลึกที่ลึกไปข้างหลังแบบที่มีขอบเขตที่ดีมาก ไม่ได้กว้างและลึกแบบเคว้งคว้างไร้จุดหมาย อาจจะเพราะการ focus image ของชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นที่ focus ได้ดีและชัดมากๆ รวมไปถึงวิธีการวางตำแหน่งของชิ้นดนตรีที่ให้ความรู้สึกว่ามันอยู่บน stage ไม่ได้ลอยกลางอากาศ เลยทำให้รู้สึกเหมือนจะสมจริง คล้ายคลึงกับการฟังเพลงในโหมด dolby headphone แต่ดีกว่า เพราะไม่มีเสียง echo กวนใจ 

          ลักษณะรูปทรงของมิติจะออกไปทางแบบวงรีแบบโดม จริงๆใจผมคาดหวังว่าเสียงจะให้แนวๆแบบ HD650 รวมไปถึงมิติด้วย แต่สิ่งที่ได้ถือว่าคนละแนวทางกันเลยครับ อันนจะออกแนว K701 ซะมากกว่า แต่ image แต่ละชิ้นจะเล็กกว่า ถ้าใครมองหาหูฟังที่เน้น soundstage เป็นหลัก ตัวนี้เลยครับตอบโจทย์ น่าจะกว้างที่สุดในบรรดาหูฟังที่พกพาได้แล้วละครับ


เสียงสูงของ Momentum จัดได้ว่าชัดเจนดีมากๆ คม ชัด แต่ไม่บาดหู  หัวโน้ตหรือ impact ก็ให้มาดีและชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างจนหลับตาแล้วเห็นภาพเลยทีเดียว  เสียอย่างเดียวตรงที่ที่เสียงสูงของ Momentum ค่อนข้างไปทางแข็งนิดหน่อย ใกล้เคียงกับความรู้สึกเวลาฟังพวกหูฟังแบบ Monitor แต่ไม่กระด้างเท่า เวลาเจอเพลงที่อัดมาแบบ peak หน่อย ก็จะเจอเสียง “S” หรือ “ซ” , “ส” ที่จะติดเสียดบ้าง แต่ไม่มาก เพราะโดยพื้นฐานของหูฟังไม่ได้เป็นหูฟังที่จูนมาจนให้เสียงย่านสูงที่จัดจนเกินไป เพลงทั่วไปจึงฟังได้สบายระรื่นหู

           ปลายเสียงสูงทอดตัวได้ดีครับ ไม่หดห้วนเหมือนพวก Monitor และที่ดีของมันคือ ตัว Momentum เอง ก็ได้พกเอาข้อดีของ MX90 และ MX980 มาด้วย คือ เสียงกีต้าร์ที่ชัดมากๆ เวลากรีดลงแต่ละเส้นสามารถสัมผัสได้ถึงน้ำหนักและรายละเอียดของแต่ละสาย แถมยังถ่ายทอดน้ำหนักของเสียงแต่ละเส้นเสียง แต่ละตัวโน้ตได้แตกต่างอย่างชัดเจน ใครเอาไปแกะเพลงนี่สบายเลยครับ แต่ก็ดูจะลงทุนสูงไปนิดหรือเปล่า เฉพาะย่านเสียงสูงผมว่ามันจะออกไปทาง Grado Ms2i มากๆ เพราะให้ feeling เหมือนมันใช้ Housing ที่เป็นเหล็กแบบนั้นเลยครับ

          เสียงกลางโดยเฉพาะในส่วนของ vocal หรือ เสียงร้องจะค่อนข้างผอมและมี image ที่เล็กหน่อย โดยเฉพาะเวลาเทียบกับบรรดา fullsize ด้วยกัน แต่ให้เนื้อเสียงและรายละเอียดที่ดีมาก สังเกตได้ว่าจังหวะถอนลมหายใจหรือจังหวะที่เตรียมสูดลมหายใจเพื่อจะเริ่มเพลงในท่อนต่อไป ทุกส่วนถูกถ่ายทอดออกมาได้ยินและชัดเจนดีมาก จุดที่ดีอีกอันคือ การวางตำแหน่งเสียง vocal ที่แปรเปลี่ยนไปตามเพลงเลยครับ คือจริงๆ ผมมักจะคิดเสมอว่า เสียง vocal โดยทั่วไปจะวางตำแหน่งไว้กลางสถานเดียว ซึ่งก็โดยมาตรฐานความเป็นอย่างนั้น แต่ปรากกว่า ตอนเอามาลองกับ Momentum เป็นครั้งแรก เสียงร้องกลับไปอยู่ทางซ้ายมากกว่า ผมก็นึกว่ามันเสีย เสียงถึงได้เอียงหนักไปด้านใดด้านหนึ่ง ก็เลยลองกับเพลงอื่นๆ ปรากฏว่า มันมีทั้งกลางบ้าง ข้างบ้าง และซ้ายบ้าง ก็เลยค่อนข้างตกใจและแปลกใจ เพราะเพลงพวกนี้ ผมเทสกับหูฟังที่ผ่านๆมา มันอยู่กลางทั้งหมดครับ ! ซึ่งถ้าหูฟังไม่มีปัญหา หูผมไม่มีปัญหา เพลงไม่มีปัญหา ก็คงเพราะมัน focus ได้ดีมากๆจริงๆถึงได้ทำให้รู้ถึงตำแหน่งได้ชัดเจน

         พวกเสียงกลองชุดนี่หายห่วงครับ การไล่รายละเอียดของทอมผมว่าคงไม่ต้องพูดให้เสียเวลา เพราะถ่ายทอดรายละเอียดและแยกแยะได้ชัดเจนดีมาก เวลาตีบนทอมจะให้ความรู้สึกเหมือนหน้าหนังของกลองค่อนข้างจะหนานิดๆ รวมไปถึงเสียงกระเดื่องด้วยที่จะให้ความรู้สึกว่าหนาๆหน่อย


ในขณะที่สแนร์เสียงจะไม่ถึงกับใสโปร่งและกังวาลมาก แต่ให้ก็ให้รายละเอียดของความเป็นสแนร์ได้ดี แต่ติดนิดนึงตรงที่สแนร์ดูจะทึบกว่าความจริงไปซักหน่อย ในขณะที่ส่วนอื่นอย่างพวกแฉหรือไฮแฮทไม่มีปัญหาเลยครับ เพราะคู่นี้ได้อนิงค์จากย่านสูงไปเต็มๆ พวกตระกูลเหล็กๆทั้งหลายเลยจะได้เปรียบทั้งความหนาแน่นและความคมชัด โดยเฉพาะไฮแฮทที่จังหวะการเคาะที่ถ่ายทอดรายละเอียดออกมาได้ดีมาก คือมันจะมีอยู่เพลงนึงที่หลังๆผมเอามาใช้ประกอบรีวิว แต่ช่วงที่ผ่านๆมาจะได้ฟังแต่พวกหูฟังระดับกลางถึงล่างๆ เลยไม่ค่อยได้สนใจอะไร แต่พอมาใช้ตัว momentum กลับกลายเป็นว่า เพลงเดียวกัน แต่ จังหวะที่สลับมาเคาะไฮแฮทมันแยกออกมาชัดเจนจนแปลกใจว่าตรงช่วงนี้มันมีการเคาะไฮแฮทด้วยเหรอ  ต้องถือว่าทำได้ดีมากในส่วนย่านนี้ครับ

 ส่วนเสียงเบสอาจจะไม่ถูกพวก Bass head เท่าไหร่ ถึงแม้ว่า impact เบสจะดี เป็นลูกเป็นรูปเป็นร่าง คล้ายๆกับของ HD650 แต่ impact ยังด้อยกว่า ดังนั้นเบสเลยออกสุภาพหน่อย ผิดกับที่ผมหวังไว้เล็กน้อย นึกว่าจะจำลอง HD650 มาซะอีก แต่เบสก็ไม่ได้ขี้เหร่นะครับ เพราะ impact เบสให้มากำลังเหมาะทีเดียว ตัว middle bass ก็ชัดมาก และให้เมโลดี้เบสที่ดีมากๆ ส่วน deep bass ก็มีให้ครบเครื่องและลากลงลึกได้ดี แต่ก็จะ roll off เร็วหน่อย โดยรวมส่วนเบสคือให้กำลังที่พอเหมาะ รูปร่างสวย mid ดีและน่าจะโดดเด่นกว่าเพื่อน ส่วน deep ก็ดี เหมาะกับการฟังเพลงทั่วๆไปแล้ว แต่อาจจะไม่โดนใจกับเพลงร๊อคเท่าไหร่ โดยรวมผมว่าฟังเพลงร๊อคไม่มันส์ ขาร๊อคแนะนำให้ข้ามไปได้เลย ยกเว้นพวกที่ชอบกีต้าร์ฮีโร่ จะไปได้ดีกับตัวนี้ครับ











   
    ภาพรวมของเสียงจะออกในแนว soundstage กว้างๆ มิติที่ลึกไปด้านหลังหัว แต่มีตำแหน่งการวางชิ้นดนตรีที่ดี ไม่ลอยไปลอยมาสะเปะสะปะ เด่นที่สุดเรื่องเสียงกีต้าร์ กลางดีมาก ทั้งชัดและแน่น เนื้อก็ดี เบสกำลังพอเหมาะ ไม่ล้นไม่เยอะ แต่ด้วยความที่ soundstage และมิติดีเกินไป บางเพลงที่อัดมาแบบ sound แคบๆหน่อย มันจะฟังแล้วไม่ค่อยลงตัว แต่ถ้าเพลงทั่วไปที่อัดมาแบบกว้างๆ จะให้อารมณ์เหมือนฟังจากลำโพงเลยครับ คือไม่ได้เหมือนมันมาแบบ stereo ทางด้านหน้าเหมือนลำโพงจริงๆนะครับ แต่ให้ลักษณะที่กว้าง และชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน เหมือนเล่นกันบนเวทีมากกว่าลอยตัวเล่นกันกลางอากาศแบบหูฟังระดับล่างๆ ถ้าพูดกันตรงๆ ผมว่าคุณภาพเสียงคุ้มกับราคาแล้วครับ แถมยังขับง่ายแม้จะกินกำลังขับอยู่บ้าง ใครที่อยากได้หูฟังพกพาซักตัวแต่เสียงดีๆคู่ควรแก่การใช้งานข้างนอก ผมว่าตัวนี้แหละครับ ตอบโจทย์แล้ว 





ไม่มีความคิดเห็น: