FATMAN FATFONES
หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อของหูฟังตัวนี้เท่าไหร่ เพราะหูฟังตัวนี้ไม่ได้โปรโมทจริงจังเหมือนกับพวก AKG , Shure , UE ดังนั้นคนที่จะเคยได้ลองฟังหูฟังตัวนี้เลยไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ ตัวผมเองแรกๆก็ไม่คุ้นชื่อเหมือนกัน ถ้าไม่ได้เห็นว่าร้านคุณโจ Sanookgadget เอาเข้ามาขายนี่ ก็คงจะไม่ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับหูฟังยี่ห้อนี้เหมือนกันครับ
จริงๆผมได้หูฟังตัวนี้มาหลายวันแล้ว แต่ด้วยภาระกิจและงานที่ต้องคอย update ข่าว ทำให้ลืมเวลาที่จะ review ตัวนี้ไปเลย วันนี้โอกาสดีฟ้าเปิด และไม่ืต้องนั่ง update อะไรให้วุ่นวาย ผมถึงได้ฤกษ์หยิบเอามานั่ง review ให้ได้อ่านกันนี่แหละครับ
ดูจากงานประกอบแล้ว หูฟังสัญชาติอังกฤษตัวนี้ใช้พลาสติกตรงส่วน Housing ได้ธรรมดามากๆครับ แถมยังลงสีได้ธรรมดาอีกต่างหาก แต่ตรงสายนี่โอเคเลยครับ เพราะทาง Fatman ใช้สายถักตั้งแต่ตรงช่วงข้อต่อ Y ลงไปจนถึงแจ๊ค ส่วนสายจาก body ลงมาก็ดูหนาแน่นแข็งแรงใช้ได้ครับ โดยรวมก็ถือว่าโอเคในระดับนึง ที่สำคัญคือ ใน set จะแถมจุกที่มีลักษณะคล้ายๆกับพวกหูฟัง Custom ด้วยครับ แต่ลอง test จุกที่แถมมาดูแล้ว ส่วนตัวคิดว่า ไม่น่าใช้เอาซะเลยครับ เพราะมันทำให้เสียงขุ่นลงแบบไม่น่าให้อภัย เลยไม่รู้ว่า ของแถมที่ให้มานี่เรียกว่าคุ้มหรือเปล่า
ในส่วนของเสียงนั้น ตัว Fatfones ค่อนข้างเน้นในเรื่องกลางกับเบสครับ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งพวกเสียงสูงแต่อย่างใด เพียงแต่จุดเด่นเรื่องเสียงกลางกับเบสจะค่อนข้างชัดเจนกว่า ตัว Image ของแต่ละชิ้นดนตรีก็ค่อนข้างจะใหญ่ และมีการวางตำแหน่งได้ค่อนข้างโอเคครับ คือมีความลึกในแต่ละระยะของชิ้นดนตรี รู้สึกได้ถึงความใกล้ไกล แม้จะไม่ได้เป็นแบบระยะที่สมจริงเหมือนฟังลำโพงก็ตาม แต่ก็ได้อารมณ์ของความมีมิติได้ดีในระดับนึงครับ แถม Soundstage ก็โอเคด้วย ออกจะกว้างด้วยซ้ำ มิติเสียงกลางหรือช่วงของ headstage ก็ให้ได้ดีในระดับนึงครับ ด้วยขนาดของ image ที่ใหญ่หน่อย ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ได้ลึกขึ้นไปซักเท่าไหร่
การแบ่งแยกชิ้นดนตรีนี่ ถ้าเป็นดนตรีมาน้อยชิ้น ไม่เยอะมาก ก็แบ่งแยกกันได้ดีครับ ยกเว้นบางเพลงเท่านั้นที่พอมีเบสขึ้นแล้วจะไปกวนเสียงกลอง แต่ส่วนใหญ่ก็แยกได้ดีไม่มีปัญหาครับ จะมีปัญหานิดเดียวก็กับเพลงที่มีดนตรีเยอะๆชิ้นและขึ้น sound พร้อมๆกัน เช่น เวลาที่ทั้งกีต้าร์และกลองรัวถี่ยิบในช่วงเดียวกัน เมื่อนั้นจะแยกเสียงกลองไม่ออกเลยครับ โดนกีต้าร์กลืนหายหมดเลย
เสียงเบสของหูฟังตัวนี้ค่อนข้างลงตัวครับ มีครบทุกรสชาติ ตั้งแต่ Upper Middle และ Deep ผมว่าระดับของเบสนี่ออกแนวกลางๆเลยครับ คือ ช่วง Upper ก็ไม่ได้มี Impact ที่รุนแรงมากมายอะไร เนื้อตรง Middle ก็ไม่ได้หนาแน่นมากมายอะไร และ Deep ก็ไม่ได้ลากยาวมากเกินไป ทำให้ไม่รู้สึกว่าเบสมันบวมครับ แถมได้เนื้อหนังชัดเจน จังหวะสไลด์เบสก็ได้ยิน เป็นเบสที่เหมาะสำหรับฟังเพลงมากกว่าเบสของ CX300 อีกครับ
เสียงกลางอยู่ในระดับกำลังดีครับ มวลอยู่ในระดับที่กลางๆ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป แถมเสียงกลางก็ให้ impact ที่โอเค รายละเอียดของเสียงกลางอาจจะไม่ได้ชัดเจนเหมือนพวก in-ear หรือ fullsize แพงๆ แต่ก็ให้น้ำหนักที่โอเคเลยครับ เป็นกลองที่ลงได้แน่นและมีตัวตน ไม่ได้ลงดัง แปะๆ หรือ เป๊ะๆ เหมือนหูัฟังบางรุ่น
เสียงสูงอาจจะไม่ได้ให้ detail จัดจ้านเหมือนกับ PK2 แต่ก็ให้ detail ได้กลางๆดีครับ คือมีแต่ไม่จัด และไม่ถูกเบสกลบหายไป ถ้าใครไม่ชอบเสียงจัดๆน่าจะชอบตัวนี้ เพราะเสียงสูงไม่ได้ถูกบูสจนมันจัดจ้านไม่น่าฟัง จะแปลกนิดหน่อยตรงที่เสียงสูงนี่ ถ้ากำลังขับไม่ถึง มันก็ไม่ค่อยออกนะครับ แถมมันยังขับยากเล็กน้อย พวก player กำลังขับต่ำๆตรงทำใจนิดนึง
โดยรวมถือเป็นหูฟังที่ให้เสียงได้โอเครับ เหมาะสำหรับฟังเพลงเกือบทุกแนว ถ้าใครอยากได้ earbud ที่ให้เบสดีๆ กลางใช้ได้ และสูงไม่จัดจ้าน ก็เลือกตัวนี้ได้เลยครับ
SPEC
- Open air dynamic type earphones (16mm Dia.)
- Impedence: 28 ohms
- Frequency response: 10Hz – 20kHz
- Sensitivity: 105 dB (at 1kHz 1mW input)
- Rated input: 2mW
- Maximum input: 10mW
- 3.5mm gold plated stereo jack
- Total weight : 18g
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น