วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

Review นักฆ่า Dr. Dre =< WeSC RZA Street >=

RZA Steet






ลังจากที่ review WeSC Conga กับ Piccolo ไปแล้ว รุ่นอื่นๆของ WeSC ผมก็ไม่ได้แตะเลย เพราะ brand นี้มีตัวเด่นๆน้อยจริงๆ แต่หลังจากซุ่มอยู่พักใหญ่ๆ WeSC ก็เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ที่จับมาชนกับทางฟากของ Monster ใน series Dr.Dre ที่ฮิตติดลมบนไปแล้ว โดยทาง WeSC ออกแบบร่วมกับ Robert Fitzgerald Diggs หรือที่รู้จักกันในชื่อ “RZA” ซึ่งคนไทยหลายๆคนจะเรียกว่า อาร์ ซี เอแต่จริงๆต้องอ่านว่า รีซ่านะครับ ส่วน อาร์. ซี เอก็อย่าไปยุ่งเค้า ปล่อยให้อยู่พระรามเก้าเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว


ทาง RZA เปิดตัว WeSC ออกมาสองรุ่นครับ คือ RZA Streetและ RZA Premiumแน่นอนว่า RZA Street ต้องชนกับ Dr. Dre Solo และ Solo HD ส่วน RZA Premium ก็ต้องไปชนกับ Dr Dre. Studio เพราะมี noise cancelling เหมือนกัน แถมไซส์เท่ากันด้วย ดูเป็นคู่มวยที่สมศักดิ์ศรีเอามากๆ ด้วย design และ ราค ซึ่งทาง WeSC ค่อนข้างเป็นต่อ เพราะราคาถูกกว่าพอสมควรทีเดียว เรียกว่างานนี้ WeSC จัดเต็ม








ภายนอก


กล่องนี่เห็นครั้งแรกผมประทับใจมากครับ เพราะปรกติผมจะชอบพวก Packaging ที่ตั้งใจทำออกมาดีๆเพื่อขายของมากกว่าพวกทำออกมาลวกๆแบบขอไปที สไตล์งานกล่องเหมือนของทาง Dr Dre. เลยครับ ซึ่งผิดวิสัยของ brand WeSC มากๆ เพราะปรกติ Packaging ของ WeSC ธรรมดาไปจนถึงขั้นห่วยเลยทีเดียว พอเปลี่ยนมาเป็น RZA ก็ลงทุนในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้รู้สีกดีกับตัว Product ไปโข

วัสดุของ RZA street เลือกพลาสติกชนิดเหนียวพิเศษแล้วเคลือบด้านเพื่อกันรอยขีดข่วน คล้ายๆกับของ Dr Dre. Solo นั่นแหละครับ แต่ต่างกันตรงที่ก้านของ RZA Street ยืดหยุ่นกว่า ทนทานกว่า ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่า Dr Dre. Solo ถ้าง้างไม่ดีนี่มีหักคามือกันได้ง่ายๆ แม้จะมีตัว Solo HD ออกมาแก้ไขแล้ว แต่ก็ได้ข่าวว่ายังเจออาการหักอยู่เหมือนกัน ในขณะที่ตัว RZA Street สามารถบิดไปมาได้ระดับนึงเลยทีเดียว


ส่วนของก้านเลื่อนระดับใช้เหล็กมาเป็นวัสดุนำเพื่อป้องกันอาการก้านเลื่อนหักและทำให้เฟืองล๊อคระดับไม่รูดง่ายๆด้วย ตัวก้านรู้สึกจะหนากว่าทางฝั่ง Solo เล็กน้อย ตัว PAD ของทาง RZA จะเป็น PAD หนาและนิ่มเด้งมือ แต่จะไม่นุ่มนวลตามแบบ Solo ผลก็คือ การเก็บเสียงยังสู้ Solo ไม่ได้ครับ เพราะของ Solo นี่เหมือนกับเปิดโหมด Noise Cancelling กันเลย แต่ของทาง RZA Street ยังพอมีเสียงลอดมาได้อยู่บ้าง แต่ PAD นี่ห้ามถอดเล่นนะครับ เพราะถอดปุ่มมันจะพังเลย เนื่องจากเค้าทำมาแบบติดเทปกาวเอาไว้ ยกเว้นว่าถ้ามันเปื่อยก็ค่อยเปลี่ยนเอา และโดยปรกติ brand นี่ก็ชอบทำ PAD ขายแยกไว้ไห้เปลี่ยนเล่นอยู่แล้ว ก็ต้องรอดดูกันว่าตัว RZA street จะมี PAD ออกมาด้วยหรือเปล่า


จุดเด่นที่สำคัญของ RZA Street อีกอย่างคือ มันเป็นหูฟังที่มีแจ๊ค 2 ข้างครับ เราจะเสียบข้างไหนก็ได้แล้วแต่ชอบ ดังนั้นการโมสายมาเล่นกับมันก็ทำได้ง่ายเลยครับ ในชุดของมันเองก็มีแถมสายแบบ Handfree สำหรับใช้กับมือถือทั่วๆไปอย่าง iphone , blackberry ( บางรุ่น ) และ Android ( บางรุ่น ) งานของสายก็ทำได้ดีด้วยครับ แต่เสียนิดเดียวตรงกระเป๋าใส่ ที่ของ Dr Dre. Solo เป็นกระเป๋าอย่างดี ในขณะที่ของทาง RZA Street ให้เป็นถุงผ้านวมมาแทน ก็อย่างว่า ราคามันก็ไม่ได้ไฮโซอะไร ดังนั้นของแถมได้ขนาดนี้ถือว่าดีแล้วครับ นอกนั้นที่แถมอีกอันก็เป็นแจ๊ค 2 หัว ไว้ใช้ฟังเพลงบนเครื่องบิน



เรื่องของเสียง


เสียงของ RZA Street จะให้ทุกย่านเสียงได้ครบครันดีครับ แต่การแยกชิ้นดนตรีของ RZA Street ยังทำได้ไม่ดีนัก เพราะเบสยังมากวนกลางอยู่บ้าง แต่ถ้าชิ้นดนตรีไม่มาก เบสไม่อัดมาเว่อร์ๆ ก็แยกออกมาได้สบายๆอย่างไม่มีปัญหา โดยเฉพาะพวก Smooth Jazz ในกรณีที่มีชิ้นดนตรีขึ้นมาเยอะๆถึงแม้จะหลบไปบ้าง แต่ก็จะได้หัวโน้ตขึ้นมาช่วยไกล่เกลี่ยให้ออกมาชัดเจนขึ้น อันที่จริงก็พอๆกันพวก Solo นั่นแหละครับ คล้ายๆกัน แต่ได้เรื่องมิติที่ RZA street กับการ focus ทำได้ดีกว่า และมวลน้อยกว่า เลยทำให้ชัดกว่าไปด้วย

เสียงสูงของ RZA Street ทำได้ชัดเจนดีมาก impact ของย่านสูงชัด ปลายพริ้วดี เนื้อมีความชัดเจน ดูได้จากไลน์กีต้าร์ที่รู้สึกได้ถึงน้ำหนักของการกรีดนิ้วแต่ละเส้น ยิ่งถ้าเพลงไหนที่อัดกีต้าร์แล้ววางตำแหน่งไว้ใกล้ๆจะยิ่งชัดมากขึ้น แต่ถ้าวางไกลหน่อยก็จะลดหลั่นน้ำหนักลง ผิดกับของ Grado ตัว MS2i ที่ชัดทุกสัดส่วน และเป็นเสียงสูงที่ไม่แห้งบาดหู ออกมีน้ำมีนวลติดจัดจ้านเล็กน้อยตามสไตล์หูฟังที่ให้เสียงแหลมชัดๆ ซึ่งก่อนเบิร์นกับหลังเบิร์นในส่วนนี้ไม่หนีกันมากครับ

เสียงกลางนอกจากจะ focus ได้ชัดเจนดีแล้ว น้ำหนักก็ทำได้ดีทีเดียวครับ หัวโน้ตชัดเจน รับรู้ถึงน้ำหนักได้ดี แต่กลางมวลน้อยไปหน่อย โดยเฉพาะเสียงร้องที่นักร้องดูแผ่วๆไปนิด แต่ถ้าเจอ player ที่กำลังขับดีๆ หรือเจอแอมป์โดนๆ เสียงกลางจะโดดเด่นขึ้นมาทันที มวลเสียงมีมากขึ้นและน้ำหนักของเสียงดีขึ้นเยอะ แต่ต้องแลกกับ image ที่ใหญ่โตขึ้นมาเบียดพื้นที่ชิ้นดนตรีไปด้วยเช่นกัน และด้วยความที่มวลไม่เยอะ เสียงกลองเลยให้รายละเอียดยังไม่ชัดเจนนัก การไล่โทนน้ำหนักของทอมแต่ละลูกยังดูกลืนๆกันไปหน่อย และสแนร์ออกก็ไม่โดดเด่นมากนักทั้งๆที่เสียงแหลมค่อนข้างชัดเจน แต่ก็ยังไม่เสริมให้เสียงสแนร์เท่าไหร่ ดังนั้นกลองเลยดูขาดพลังไปนิดหน่อย ดีที่ได้น้ำหนักของ impact มาช่วยเลยทำให้ภาพรวมของกลองออกมาได้ดี

เสียงร้องจะค่อนข้างชัดและติดเสียงสูงออกมาบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดบาดหูหรือแสบจนฟังไม่ได้ แปลกอยู่อย่างตรงย่านนี้ถ้าเกิดเพลงอัดมาไม่ดี เสียงกลางจะออกทื่อๆทันที แต่ถ้าเพลงไหนอัดมาดีๆหน่อยก็จะเป็นปรกติครับ ดังนั้นจะเรียกว่ามันแอบขี้ฟ้องก็คงจะไม่แปลก เพราะถ้าเจอเพลงห่วยๆนี่ไปไม่เป็นเลยครับ

เสียงต่ำทำออกมาได้ดีทีเดียวครับ ให้เสียงเบสได้ครบทั้ง impact , middle และ deep เบสเลยครับ เบสที่ออกมาคุณภาพค่อนข้างดี ไม่บวม ไม่ล้น ไม่เบลอ แถมยังค่อนข้างแน่น และให้ middle เบสออกมาได้ดีด้วยครับ ในส่วนของเบสนี่หูฟังตัวนี้คุมโทนได้ดีมาก แต่เสียนิดเดียวตรงตำแหน่ง image ของเบส มันไม่กลางเป๊ะๆ แต่จะออกเบี่ยงๆไปนิดนึง ถ้าไม่ซีเรียสก็ถือว่ามันให้คุณภาพในด้านเบสได้ดีครับ

ถ้าพูดถึงภาพรวมของเสียง ตัว RZA Street จะละม้ายคล้ายคลึงกับทาง Dr Dre. SoloHD มากๆครับ แต่จะแตกต่างกันนิดหน่อยในแง่ของมิติที่ RZA Street จะทำได้ดีกว่า และลึกกว่าของทาง SoloHD ส่วนในแง่ soundstage คู่นี้พอๆกันเลยครับ เพราะไม่ได้กว้างมากทั้งคู่ ในขณะที่ image เสียงกลางโดยเฉพาะเสียงร้องของทาง RZA Street จะทำได้ดีกว่า ชัดกว่า และเล็กกว่าของ SoloHD ในขณะที่ถ้าเทียบกับ Solo ธรรมดานี่ RZA กินขาดแบบไม่ต้องคุย

แต่ขอติเรื่องงานประกอบนิดนึง ตรงส่วน headband ที่ไว้คาดหัว ซึ่งเป็นพลาสติกสองส่วนประกบกัน แต่มันไม่แนบสนิทเป๊ะๆ อันที่จริงหูฟังระดับนี้น่าจะเก็บงานได้ดีกว่านี้ แต่อย่างว่าสั่งผลิตประเทศที่คุณก็รู้ว่าใคร ดังนั้นงานก็เลยออกมาราวๆนี้ ไม่รู้ว่ามันจะแตกออกมาหรือเปล่า แต่เท่าที่ผมบิดเล่นก็เจอมันโชว์ร่องให้ดูเล็กๆอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช้ไปนานๆจะมีผลหรือเปล่า ก็หวังว่ามันจะทนไม้ทนมือกว่า Solo นะครับ














ไม่มีความคิดเห็น: