KOTCH <>
เอกลักษณ์ของแอมป์ตัวนี้แตกต่างจาก 2 ตัวแรกสิ้นเชิงครับ เนื่องจากทางผู้ที่ออกแบบแอมป์ตัวนี้ต้องการ "ฆ่า" บุคลิกของ op-amp เพื่อให้มันทำหน้าที่ขยายเสียงเพียงอย่างเดียว จะได้ตรงตามอุดมคติของแอมป์ที่ดีครับ ซึ่ง เพื่อการนี้เองทำให้แอมป์ตัวนี้ต้องใช้ op-amp ถึง 3 ตัว !! โดยที่สองตัวจะเป็น Dual Op-Amp และมี Single อีกหนึ่งตัวที่เปรียบเสมือน conductor เพื่อคอยควบคุมแอมป์ 2 ตัวที่เหลือ ดังนั้น มันจะมีปัญหากับหูฟังที่มี sensitive สูงๆทันทีที่กำลังไฟลดต่ำลงเกินกว่าที่จะจ่ายได้สเถียร ทุกวันนี้ผมก็เลยตีกับมันค่อนข้างบ่อยในเรื่องแบตครับ เพราะเวลาใส่แบตใหม่ๆเลย เสียงจะ smooth ใส สุดๆ แต่พอผ่านไปซักพัก เสียงกลางที่เวลาขึ้นสูงสุดมันจะมีอาการสั่นๆทันที ถ้าแบตยิ่งอ่อนลงอีก มันจะเริ่มเปลี่ยนเป็นพล่า ผมล่ะภาวนาให้ตัวเต็มออกไวๆจะได้ต่อผ่านไฟตรงๆ เพราะหงุดหงิดกับแบตจะแย่... ( อาการนี้เป็นกับเฉพาะ AKG K701 ครับ )
เนื่องจากแอมป์ตัวนี้ยังไม่ออกเป็นตัวเต็มๆ ผมจะขอไม่พูดเรื่อง Body ภายนอกแล้วกันครับ ก็คงจะเข้ามาที่เรื่องการให้เสียงเลย... อย่างที่บอกครับว่า ผู้ที่ออกแบบไม่ต้องการให้มีการเอาบุคลิกของแอมป์แถมเข้าไปให้หูฟัง ดังนั้น แอมป์ตัวนี้จึงปราศจากบุคลิกทุกอย่าง จะเสมือนเราต่อตรงๆเข้ากับ Source นั้นเลยทีเดียว การให้เสียงก็จะเท่าๆกับที่หูฟังนั้นทำได้
ครั้งแรกที่ผมได้ฟังแอมป์ตัวนี้ ผมได้พกเอา MS-1 ไปด้วย บอกตามตรงครับว่า ตอนที่ลอง test นั้น แยกไม่ออกเลยว่ามันต่างกับปรกติตรงไหน เพราะเสียงเรียกว่าเหมือนต่อกับ source ตรงๆเลยครับ ผมเลยลองเอา UE Super.Fi 5 Pro เสียบดูแทน ปรากฏว่า มันเพิ่ม Soundstage ให้ Super.Fi อีกนิดนึงครับ เสียงกลางโปร่งขึ้นทันที มิติดีขึ้นมาอีกนิดนึงครับ ซึ่งการให้เสียงของ Super.Fi ก็ไม่โดนเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ตรงนี้ทำให้ผมชอบแอมป์ตัวนี้ครับ เพราะตรงกับอุดมคติผมเลย ผมชอบที่จะอยากได้บุคลิกของเสียงจากหูฟังมากกว่าที่มาจากแอมป์ครับ มันทำให้เราเลือกหูฟังที่เราชอบได้ง่ายขึ้นครับ
เสียงหลักๆของตัวนี้เลยจะไม่มีการจัดเกินไป หรืออุ่นนุ่มเกินไป ทุกอย่างกลางๆ ที่เหลือก็อยู่ที่หูฟังแล้วล่ะครับว่าจะจัดให้คุณได้แค่ไหน เพราะเค้าก็ให้อะไรที่กลางๆไปหมดแล้ว ซึ่งที่ผมชอบคือนอกจากไม่มีบุคลิกของเสียงใดๆแล้ว แกยังจะแถมมิติมาให้อีกนิดนึงด้วย ยิ่งมาฟังกับ 701 นี่ผมยิ่งชอบเลย เพราะมันทำให้ soundstage ของ 701 กว้างยิ่งขึ้นไปอีก...
แอมป์ตัวนี้เห็นเค้าว่าสามารถขับพวก imp สูงๆได้สบายๆ แต่ตัวผมเองมีหูฟังที่ imp สูงสุดก็แค่ 64 เลยยังไม่มีโอกาสได้ทดสอบตามที่คนออกแบบบอก กำลังมองๆหาอยู่ว่าจะมีคนปล่อยหูฟังที่ imp สูงๆให้ผมได้เอามา test หรือเปล่า อีกอย่างที่ผมชอบคือมันสามารถปรับแรงดันตาม imp ของหูฟังที่เสียบเข้าไป คือ ถ้าเอาหูฟังที่ imp ระดับ 100 ขึ้น มันก็ยังสามารถขับได้สบายได้ไม่ต้องไปปรับแต่ง gain ให้เพิ่มระดับขึ้นแต่อย่างใด... ตรงนี้ผมมองว่าเป็นทีเด็ดเลยล่ะ
แอมป์ตัวนี้จะเหมาะกับผู้ที่ชอบเลือกหาหูฟังที่เหมาะกับตัวเอง ยิ่งผู้ที่ชอบเสียง Flat และไม่เคยคิดจะไปจับ EQ น่าจะชอบตัวนี้นะครับ เพราะมันจะไม่ไปยุ่งเสียงจาก source เลยแม้แต่นิดเดียว เรียกได้ว่า อยู่ตรงกลางระหว่าง The Pig ที่ให้เสียงกลางอุ่นๆ อิ่มๆ กับ AwayG ที่ให้เสียงกลางได้จัด และโปร่ง ซึ่งก็คงต้องลองกันอีกทีครับว่าชอบตัวไหนมากกว่ากัน แต่โดยรวมแล้ว การให้ soundstage ตัวนี้จะดีกว่า The Pig นิดนึงครับ ด้วยความที่มันโปร่งกว่าครับ
ในเรื่องการให้เบสนั้น ตัวนี้ทำเบสได้ smooth กว่าทั้ง The Pig และ AwayG ครับ ถ้าเบสแรงๆจะไม่แตกต่างกันมากครับ แต่ถ้าเบสมาเบาๆนุ่มๆจะเห็นทันทีเลยครับว่า ทาง The PIG และ AwayG กระด้างกว่านิดนึง ซึ่งก็อยู่ในระดับสัมผัสได้ครับ ผมรู้สึกว่าเวลาเบสออกนุ่มๆตัว KOTCH จะไล่รีดไปได้จนสุดปลายเบสครับ ในขณะที่ The Pig และ AwayG จะมีชะงักครับ ตรงนี้อาจจะต้องมีการ burn The PIG ไปให้เท่าที่เฮียมั่นบอกน่ะครับ ว่าต้องเป็น 200 ชั่วโมง อาจจะทำให้ตรงจุดนี้เปลี่ยนไป ถ้ายังไงเกิดเปลี่ยนแปลงตรงจุดนี้ ผมมา EDIT อีกครั้งครับ...
สรุปโดยรวมครับ แอมป์ตัวนี้ให้เสียงที่ Flat สามารถให้มิติและ soundstage ที่ดีขึ้นได้ ปัญหาที่ผมพบตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องแบตนี่แหละครับ ขนาด 9V สองก้อนนะเนี่ย... มันไม่ใช่ว่าหมดเร็วนะครับ แต่ถ้าแบตเริ่มอ่อนกำลังก็จะเกิดอาการที่ผมบอก เพียงแต่มันจะมีปัญหาแค่กับหูที่ sensitive จัดๆ และ imp สูงๆ ถ้าเป็นอย่าง MS-1 และ KSC35 จะไม่เจออาการที่ว่าเลยครับ จนตอนแรกผมนึกว่าเป็นที่หูฟังผมด้วยซ้ำ แต่พอลองใช้ The Pig ถึงรู้ว่าไม่ใช่ซักหน่อย... เห็นรูปตอนเสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดว่าน่าจะใหญ่กว่าทั้ง The PIG และ AwayG ครับ สงกะสัยจะพกลำบาก ดูท่าจะได้วางที่บ้านอย่างเดียวละกระมัง....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น