วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552
++ Review ++ แอมป์จิ๋ว MUSIC MAX LT1
แอมป์ตัวนี้ผมได้ยิืนชื่อเสียงอยู่เล็กๆว่าเป็นแอมป์จิ๋วทรงพลังที่ไม่ ธรรมดา ทั้งขนาดและคุณภาพเสียง ทำให้ผมเกิดความสนใจอยากจะลองฟังดู เพราะตั้งแต่ฟังแอมป์มาหลายตัว แอมป์ตัวเล็กๆแบบนี้ ยังไม่เจอตัวไหนที่เรียกได้่ว่า "เสียงเข้าท่า" เลยครับ ตั้งแต่แอมป์ยอดนิยมใน head-fi ไปจนถึงแอมป์ไม่มีใครนิยมหลายๆตัว ฟังยังไงก็ผิดหวัง เพราะเสียงกับราคาเดินสวนทางมาพร้อมกับขนาดของมัน จวบจนชื่อเสียงของ Music Max ลอยมาเข้าหูถึงได้ไปเสาะหายืมมาดอง เอ้ย ทดลองฟังดูว่าเสียงจะเป็นยังไง
มาดูกันที่ภายนอกครับ
แอมป์ตัวนี้มีขนาดเล็กมากจริงๆครับ จับใส่กระเป๋าเสื้อได้สบายๆเลย ตัว Body ใช้อลูมิเนียมแล้วชุบดำ ไม่แน่ใจว่าเป็นอะโนไดท์หรือเปล่า แต่กล่องแบบนี้ผมเคยเห็นแอมป์หลายๆยี่ห้อใช้เหมือนๆกะของ Music Max นี่แหละครับ คิดว่าน่าจะเป็นกล่องมาตรฐานสากลสำหรับคนทำแอมป์ ภายนอกเลยดูแข็งแรงดีมาก และด้วยถ่าน AAA 4 ก้อน ทำให้ตัวแอมป์เลยค่อนข้างมีน้ำหนักในระดับนึง งานช่วง Knob ของ Volume เองก็ดีครับ เลือก knob มาได้แหมาะกับแอมป์ดี แถม Volume ยังค่อนข้างหนืดๆหน่อยด้วย เ้หมาะกับคนที่ชอบการปรับ Scale ของเสียงที่ละจุดมากๆ และไม่ต้องกลัวจะเผลอบิดแรงเกินไปจนทำให้เสียงทะลักออกมาทำลายโสตประสาทอีก ตะหาก
ตัวแจ๊คทั้งสองช่องก็ใช้ของที่เกรดดีพอสมควร เสียบแล้วไม่มีอาการหลวมหรือมีเสียงค่อกแค่กให้ได้ยิน ด้านหลังของแอมป์จะมี น๊อตสำหรับหมุนเอาฝาหลังออกเผื่อกรณีจะเปลี่ยนถ่านก้อนใหม่ โดยรวมถือว่างานทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่บางคนอาจจะไม่ชอบนิดนึงตรงที่มันไม่สามารถชาร์ทด้วยตัวเองได้ และไม่สามารถรับไฟจากภายนอกได้ด้วย ทำให้จะมีปัญหานิดนึงเวลาต้อง burn แอมป์น่ะครับ เพราะจะเปลืองถ่านบรม แต่ถือว่าเป็นจุดด้อยที่เล็กน้อยครับ เพราะแิอมป์เล็กๆส่วนใหญ่มันก็ใส่ได้แค่ถ่านแบบนี้แหละ
เรื่องของเสียง
เห็นจิ๋วๆแบบนี้ แต่กำลังขับก็ถือว่าไม่ธรรมดานะครับ แม้ว่ามันจะไม่ได้ให้ Dynamic ที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้เสียงดังมากขึ้นกว่าเดิมได้ ที่ Volume ช่วงต้นๆ ก็เล่นเอาซะแก้วหูแทบพัง ดังนั้นถ้าจะเอาไปจับคู่กับหูฟังขนาดเล็กผมเห็นว่าจะไม่้เหมาะสมเท่าไหร่ แต่ขึ้นไปอยู่กับ Full-size นี่กำลังเหมาะเลยทีเดียว ถ้าหูฟังที่ไม่กินกำลังขับโหดมาก ตัว Music Max เอาอยู่แน่นอนครับ เสียดายที่ตอนนี้ผมไม่มีหูฟังที่กินกำลังขับมากๆไว้ test เพราะเอาไปขายกินหมดแล้ว ( 55 ) ตอนนี้ที่มีพอจะทดลองได้หน่อยก็แค่ Grado RS1 กับ SR225 เท่านั้น อีกตัวอย่าง AD2000 คงไม่เหมาะเท่าไหร่ ซึ่งเท่าที่ test กับของ grado ดู ก็รู้สึกว่าขับกันได้สบายๆครับ ไม่ต้องบิดจนถึง 12 นาฬิกาก็ดังสนั่นลั่นโลกแล้ว ดังนั้นเรื่องกำลังหายห่วงได้
บุคลิกของแอมป์ตัวนี้จะค่อนข้างแปลก จะเน้นไปทางการยืด image ของชิ้นดนตรีออก ทำให้ image ดนตรีทุกชิ้นดูใหญ่โตมโหฬารมากยิ่งขึ้น ทำให้ชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นเข้ามาใกล้เรากว่าปรกตินิดนึง และด้วยความที่มันไปยืด image ออก แต่ขาด Dynamic ไปเสริม ทำให้เนื้อจะออกบางลง แต่ก็ไม่หนักหนาเท่ากับตัว Bluetooth ของ Cowon ที่อันนั้นจะให้เสียงสไตล์แบบเดียวกัน คือยืด image ออกให้ดูใหญ่ แต่ทางนั้นจะบางกว่า และให้ soundstage ที่กว้างกว่า ส่วนตัว Music Max จะให้ soundstage ที่ไม่หนีไปจากของเดิมเท่าไหร่ แต่จะไปเสริมส่วน headstage ที่ image ของชิ้นดนตรีช่วงนั้นดูชัดขึ้น และจับต้องได้ง่ายขึ้น
เสียงเบสตัวนี้่จะค่อนข้างเด่นหน่อย คือไม่ได้อัดจนบวม และให้ image ของเบสที่ค่อนข้างใหญ่และมวลดูเหมือนจะเยอะกว่าปรกติหน่อย ทำให้ฟังเบสได้ชัดขึ้น ในขณะที่ impact ก็เพิ่งแถมให้อีกนิดนึงด้วย แต่ก็ยังสู้พวกแอมป์ที่สามารถปรับเบสไม่ได้ เพราะตัว Music Max จะไม่ได้แถม Deep Bass มาให้ด้วย หลักๆจะให้แค่ส่วนที่เป็นมวล กับหัวโน้ตมากกว่า
เสียงสูงถือเป็นจุดเด่นของแอมป์ตัวนี้เลยทีเดียว เพราะจะให้เสียงแหลมที่เด่นชัด เพิ่มรายละเอียดจากเดิมๆเติมลงไปจนได้ยินประกายที่ชัดเจนขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความปวดเสียดแก้วหูกับเสียงแหลมที่จัดจ้านมากขึ้นใน เวลาเดียวกัน ถ้าจับไปใช้กับหูฟังที่เน้นเสียงแหลมแผดๆ จะให้ความรู้สึกเหมือนมีคนเอาเข็มมานั่งจิ้มแก้วหูเรา เสียงสูงของ Music Max จะติดออกด้านๆนิดๆ ไม่ได้เป็นแหลมใสหวาน ฟังแล้วเคลิ้ม เลยน่าจะเหมาะกับงานเสียงกีต้าร์ที่ต้องการฟัง Distortion เยอะๆ พวกดนตรีแบบร๊อคดูแล้วจะไปกันได้ดีกับสไตล์เสียงแบบนี้
เสียงกลางจะได้รับอนิสงค์จะการบู๊ตย่านสูงของแอมป์ ทำให้เสียงกลางติดแหลมจากเสียงสูงไปด้วย แถมเนื้อเสียงกลางจะค่อนข้างกลวงหน่อย แต่ก็ได้มวลกับขนาด image มาช่วยชดเชยส่วนที่ขาดหายไปทำให้ฟังแล้วลงตัวพอดิบพอดี แถมเสียงกลางก็ฟังง่ายกระชับไม่บวมอืดยืดยาดจนฟังแล้วน่าเบื่อ ถ้าจับมาฟังเพลง dance สนุกๆก็คิดว่าไปกันได้ดีมากๆทีเดียวครับ
โดยรวมก็ถือว่าเป็นแอมป์ที่พอใช้ได้อีกตัว แม้คุณภาพจะสู้พวกที่ตัวใหญ่กว่าแต่ราคาพอๆกันไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆก็ได้รูปแบบบุคลิกเสียงอีกแบบพร้อมด้วยการพกพาที่ง่ายและสะดวก ต่อการไปไหนมาไหน ซึ่งอันนี้ผมว่าบางคนก็ชอบนะครับ เพราะแอมป์เล็กๆพกง่ายมันหาค่อนข้างยากทีเดียว น่าเสียดายอย่างนึงตรงทีแ่อมป์ตัวนี้จับคู่กับ KSC35 แล้วไม่ได้เรื่องเลยครับ แต่จับกับ Grado ดันไม่มีปัญหา คงเพราะบุคลิกไม่ Match กันนั่นเอง :)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น