วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Review หูฟัง Sennheiser CX300

Sennheiser CX300

ผมว่าๆหลายๆคนน่าจะได้ผ่านมือตัวนี้ักันบ้างแล้วนะครับ เพราะถือว่าอยู่ในตลาดมาค่อนข้างนานพอดูทีเดียว แถมราคาก็เื้อื้อมถึงกันได้ง่ายๆแล้ว ไม่เหมือนแต่ก่อนที่พุ่งทะลุไปอยู่ 3 พันกว่า ซึ่งแพงมากๆ พูดง่ายๆว่าถ้ายังอยู่ในราคาระดับนั้นนี่ผมเล่นตัวอื่นดีกว่า สบายใจกว่า





ว่ากันในส่วนภายนอกก่อนนะครับ



ในส่วนของสายถือว่าใช้สายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คุณภาพสายค่อนข้างต่ำน่ะครับ แต่ก็ดูแล้วแข็งแรงดี งานส่วนตัว Body ก็ถือว่าโอเคครับ ส่วนตรงแจ๊คนี่ธรรมดาถึงธรรมดาครับ ราคาค่าตัวจากการดูวัสดุภายนอกไม่น่าถึง 3 พันเท่าไหร่ ลงมาอยู่ที่พันกว่าๆนี่โอเคครับ

หูฟังตัวนี้ค่อนข้างเป็นที่ถกเถียงกันมากในช่วงแรกๆที่ออกมาใหม่ๆ บางคนก็ว่ามันคือตัวเดียวกันกับ Creative EP630 แต่มาจนถึงทุกวันนี้ก็ได้รับการพิสูจณ์แล้วว่า มันคือคนละตัวกัน เสียงก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จริงๆเรื่องเหมือน EP630 กับ SHARP MD33 นี่โดนกันมาตั้งแต่สมัยออกตัว IE4 ด้วยซ้ำครับ ทั้งๆที่ตัว IE4 ให้ค่ายอย่าง Futuresonic เป็นผู้ผลิตหูฟังให้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับ Creative และ Sharp ใดๆเลย แต่ด้วยความที่ลักษณะ Housing ที่ดูจากรูปแล้ว เหมือนกันมากทีเดียว คนเลยนึกว่ามาจากผู้ผลิตคนเดียวกัน หลังๆนี่นอกจากยี่ห้อที่ว่ามาแล้ว ก็ยังมี AKG K324P ที่ใช้ Housing แบบเดียวกันด้วย ถือเป็น Housing ยอดฮิตเอามากๆเลยทีเดียว


- K324P คู่เหมือนที่ออกตามกันมาในภายหลัง -



มาว่ากันที่เรื่องของเสียงบ้าง


ในส่วนของเสียงนี่ ตอนที่ฟังครั้งแรกๆจะรู้สึกว่ามันออกโทน Dark หน่อยๆ อับนิดๆ ค่อนข้างแปลกใจนิดๆว่าทำไมถึงทำให้โทนออกมาทาง Sennheiser ได้ เพราะหูฟังตัวนี้ทาง Sennheiser จ้างเค้าผลิตด้วยซ้ำ แรกๆที่ยังไม่วางตลาด ผมยังนึกว่าเสียงจะเ�3ิงๆถึงรู้ว่าค่อนข้างต่างกันเยอะ

หูฟังตัวนี้ค่อนข้างเน้นในเรื่องมิติเสียงกลางครับ เพร0��ังตัวนี้ค่อนข้างเน้นในเรื่องมิติเสียงกลางครับ เพราะให้มิติเสียงกลางที่ลึก ในขณะที่ Soundstage ค่อนข้างแคบหน่อย มิติโอบล้อมรอบก็ทำได้ดีครับ ตัว image ชิ้นดนตรีค่อนข้างใหญ่ ทำให้เวลาเจอเพลงที่มี sound เยอะๆหนักๆขึ้นพร้อมๆกันมันเลยจะคาบเกี่ยวกันบ้าง โดยเฉพาะเสียงกลองที่บางทีจะจมหายไปกับเสียงอื่นๆเลยครับ โดยเฉพาะเพลง Through the fire and flame ที่จังหวะกลองหายไปกับเสียงกีต้าร์เลยครับ บางทีก็หลุดออกมาเด่นได้ บางทีก็ผลุบหายไปเป็นพักๆ

เสียงสูงออกสไตล์แห้งๆเล็กๆและจัดจ้านหน่อยๆครับ คล้ายๆกับว่าหูฟังตัวนี้มันไปเน้นที่โทนต่ำมากเกินไปเลยต้องจูนให้เสียงสูง เด่นขึ้นมาอีกหน่อย ไม่งั้นจะจมหายไปหมด เพราะโดยรวมมันก็ออกขุ่นๆอยู่แล้ว ถ้าเสียงสูงไม่ค่อยเด่นจะทำให้ออกมัวๆไปทุกย่านครับ ถ้าฟังๆดูจะรู้เลยว่าขอบเสียงสูงมันแปลกๆ เสียงพวกไฮแฮทจะชัดเจนครับ เพราะปรกติไฮแฮทมันก็ออกแห้งๆอยู่แล้ว พอมือกลองเปลี่ยนไปตีที่แฉปั๊บ แฉก็กลายเป็นไฮแฮทไปเลย เพราะออกแห้งๆ ไม่ใสกังวาลอย่างที่ควรจะเป็นครับ ถ้าเป็นเพลงที่อัดกลองมาดีๆชัดๆจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่กับเพลงธรรมดาทั่วๆไปจะเห็นผลชัดเจนมากๆครับ

เสียงพวก vocal หรือเสียงร้องของหูฟังตัวนี้ค่อนข้างเด่นทีเดียว เพราะ Focus ได้เล็กและชัด และแยกเป็นอิสระชัดเจน เด่นซะจนรู้สึกว่าชิ้นดนตรีอื่นๆเป็นแค่ background แบนๆ รายรอบเสียงร้อง แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ี เสียงของนักร้องถ้าเกิดขึ้นไปสูงเมื่อไหร่ จะออกแห้งๆทันทีครับ ทั้งๆที่มวลเสียงร้องค่อนข้างเยอะ เนื่องจากได้อนิสงค์จากย่านเสียงต่ำทำให้มวลเพิ่มมากขึ้น แต่ขอบเสียงแห้งไปหน่อย ถ้าทำให้ชัดแบบไม่แห้งจะดีมากๆเลยครับ

ย่านเสียงต่ำเด่นมากๆครับ แต่ image เบสรูปร่างไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะตรง middle ยังไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ครับ คนที่ชอบ Deep มากๆน่าจะชอบครับ เพราะ Deep เบสมีให้เต็มๆครับ แต่ Deep แบบนี้ผมไม่ชอบนะ มันทำให้เบสโดยรวมดูบวมๆไปครับ เบสค่อนข้างใหญ่ทีเดียว สไตล์คล้ายๆซับเบสน่ะครับ คือ impact ไม่แรง แต่ได้ middle และ deep เต็มๆ

โดยรวมเป็นหูฟังที่ให้เสียงร้องที่ชัด focus ที่ดี เบสที่เด่น มิติเสียงกลางลึก แต่เสียงโดยรวมออกอับและขุ่น ขอบเสียงสูงออกแห้งๆนิดๆ ถ้าฟังเพลงเบสเยอะๆแล้วผมจะปวดหัวเลยครับ เพราะเบสมันต่อเนื่องกันมากเกินไป upper มันดันไม่กระแทกกระทั้นเด่นแยกออกมา แต่น่าจะถูกใจขาเบสหลายๆคนนะครับ







SPEC
Frequency response18Hz - 21kHz
Cable lengthAsymmetrical, L: 170 mm; R: 510 mm, (850 mm divider to plug)
Impedance16 Ohm
Sound pressure level (SPL)112 dB (1 kHz, 1 Vrms)
Jack plug3,5 mm stereo (angled)
Ear couplingintraaural (ear canal fit)
Transducer principledynamic, open

ไม่มีความคิดเห็น: