Review หูฟัง Soken AS-800

SOKEN AS-800

ช่วงที่ผมได้หูฟังตัวนี้มาใหม่ๆ คือช่วงที่อยู่ท่ามกลางกระแสหูฟังดังๆอย่าง Philips SHE9500 , Creative EP630 , EP880 , Shure E2C , E3C , E4C , E5C , Senheiser MX550 , PX100 , PX200 , etc. ทำให้ผมเคว้งครับ ไม่รู้จะซื้อตัวไหนมาเป็นคู่บุญคู่ยากดี เพราะว่า คนนั้นก็บอกอันนั้นดีกว่าอันนี้ อีกคนก็บอกว่าอันนี้ดีกว่าอันนั้น แถมแต่ละอันมันก็ไม่ได้ถูกๆ ผมก็ยิ่งไม่รู้จะเลือกอันไหนเข้าไปใหญ่ แต่สุดท้ายผมก็ไปคว้าเอา EP880 มาจนได้ ผลก็คือ ชอบมากเลยครับ เพราะเสียงของมันตรงใจผมมาก มันใสแบบได้ใจจริงๆ แต่ความพอใจคนเรามันก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตรงนั้นครับ ผมก็ยังอยากลองอะไรใหม่ๆอยู่ดี


เผอิญวันนึง ผมได้ฟังรายการ What's hifi ทาง FM 102.5MHZ ซึ่งปรกติรายการนี้จะพูดแต่สินค้าระดับ Hi-end ( แต่ก็พูดถึงสินค้า sponsor ตัวเองบ๊อยบ่อย ) แต่มีครั้งนึง รายการนี้พูดถึงหูฟัง Soken ... ผมก็งง เลยรีบหมุนเร่งเสียง ( front ผม รุ่นเก่า..55 ) ตอนแรกนึกว่าหูฝาด แต่พอฟังดีๆ หูฟัง soken จริงๆด้วย ได้ยินเสียงอาจารย์ไมตรีพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า หูฟัง soken เสียงดีมาก ติดโม้หน่อยๆด้วยว่า หูแพงๆน่ะ กินมันไม่ลงหรอก... เอาล่ะสิ ผมได้ยินแบบนี้จะอยู่เฉยๆได้หรือ ก็เลย ลองสอบถามไปทางศูนย์ soken เกี่ยวกับหูฟังที่ได้ยินมา ซึ่งทางศูนย์ก็บอกมาว่า อยู่ในระหว่างการนำเข้า... ไม่ทราบกำหนดว่ามาถึงเมื่อไหร่... ผมก็เลยแห้วไปตามระเบียบ

เผอิญวันนี้ผมติดธุระต้องไปซื้อของที่ IT mall ก็เลยเดินเล่นแถวๆนั้นดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย ช่วงกำลังเดินๆอยู่ก็มองไปเห็นซุ้มที่ขายหูฟังครับ ผมก็เลยเดินไปด้อมๆมองๆเผื่อมีอะไรน่าสนใจ ปรากฏว่า เจอหูฟัง Soken ครับ ! ผมตกใจมาก มันมาแล้วหรือ ก็เลยรีบซื้อเพื่อเอามาทดสอบคุณภาพเสียงเลยครับ

ดูกันที่ภายนอกก่อนครับ package ที่ใส่ถือว่าสอบผ่านเลยครับ ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ในระดับราคาไม่ถึง 500 ถือว่าทำได้ดีมากๆทีเดียว ส่วนตัวหูฟังนั้น ผมชอบตั้งแต่แรกเห็นเลยครับ ไม่น่าเชื่อว่าทำออกมาได้ดูสวยขนาดนี้ วัสดุที่ใช้ทำก็ค่อนข้างโอเคเลยครับ เป็นเหล็กขึ้นรูปทั้งตัว อาจจะแปลกจากหูฟังชนิดอื่นตรงที่ด้านท้ายมีช่องให้เสียงลอดออกด้วย บางคนบอกว่ามันเป็นทั้ง Earbud และ IN-ear เพราะฟังได้สองด้าน แต่เท่าที่ผมลองดู มันน่าจะฟังได้แค่ด้านเดียวครับ ถ้าเค้า Design ให้ฟังได้สองด้านจริงๆ คงแถมพวกจุกยางมาให้ด้วยแล้ว แถมเวลาใส่ฟังอีกด้านมันก็ดูตลกด้วย และที่ผมลอง ผมรู้สึกว่าเสียงมันกลับเฟสด้วยซ้ำครับ ดังนั้นไม่แนะนำให้ใช้ด้าน In-ear เท่าไหร่

ตัวสายก็ดูแข็งแรงดีครับ ตรงขั้วแจ๊คก็ใช้วัสดุเดียวกับตัว Housing หูฟัง คุณภาพโดยรวมของทั้งสายและหูฟังถือว่าดีมากๆครับ ดูแล้วทนทา่นแข็ง แต่เห็นว่าล๊อตแรกๆของหูฟังตัวนี้จะมีปัญหาเรื่องสายขาดใน ซึ่งก็รวมถึงตัวของผมด้วย พอไปเปลี่ยนตัวใหม่มา ก็ยังไม่เจออาการขาดในอีกเลยครับ



ทีนี้มาดูรายละเอียดของหูฟังครับ



คุณภาพเสียง AS-800 ตอนที่ฟังครั้งแรก การแยกเสียงทำได้เกือบดีเลยครับ พอดี EP880 มันดีกว่า 555 Soungstage อยู่ในระดับที่ดีใช้ได้ แต่มิติเ้สียงกลางยังไม่ลึกมาก ลักษณะสไตล์ของ soundstage โดยรวมก็เป็นทรงรักบี้โอบล้อมหัวเราครับ

เสียงกรุ้งกริ้งก็ทำได้ดีเลยครับ ถึงแม้จะไม่ได้ระดับของ EP880 เพราะรายละเอียดของเสียงย่านสูงนั้น EP880 ทำได้ดีและดูมีคุณภาพกว่าครับ ของ AS-800 จะเป็นเสียงสูงที่ขาดคุณภาพไปนิดนึง เป็นสูงที่ออกหยาบแบนไปนิด แต่ก็ทอดตัวได้ดีครับ ถึงแม้ปลายเสียงสูงจะขึ้นไม่สุด แต่ก็ถือว่าทำได้โอเคกับระดับราคาแล้วครับ

จุดเด่นของตัวนี้คือเรื่องเบสครับ เป็นเรื่องน่าแปลกที่มันให้เบสตรงส่วน Middle เบสได้แน่นและดีมากๆ ถึงจะไม่เท่ากับหูฟังระดับราคาสูงๆ อย่างพวก Shure แต่ก็ทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจในระดับ Earbud แล้วครับ แต่เป็นหูฟังที่แปลกอยู่อีกอย่างคือ Impact ของเบส กลับไม่หนักน่วงเท่าไหร่ จะไปเด่นในแง่ของ Middle เบสมากกว่า ทำให้เนื้อเบสดีมากๆ แต่ Deep ไม่เยอะเท่าไหร่ Balance ของเบสเลยจะแปลกๆนิดนึง เพราะโดยปรกติถ้าหูฟังที่ให้เบสดีๆ น้ำหนักของ impact และ middle จะมี Balance ที่ใกล้เคียงกัน แต่ตัวนี้ตัว Middle กลับโดดเด่นกว่า ก็ถือว่าทำได้ดีระดับนึงทีเดียวครับ ขาเบสที่ชอบ Melody ของเบสแต่งบประมาณไม่สูง น่าจะถูกใจกับตัวนี้ที่สุดครับ ในระดับราคาไม่เกินพัน ไม่น่าจะมีตัวไหนให้ middle ได้ดีเท่านี้แล้วครับ


เสียง Vocal ถือว่าทำได้ในระดับโอเคครับ การ Focus Image ทำได้ดี มีรูปร่างของ image ดี รูปทรงของ image ไม่มีอาการแบนให้เห็น เป็นรูปร่างออกสามมิตินิดๆด้วยครับ แต่ก็เป็นเฉพาะกับ Vocal นะครับ image ย่านอื่นก็ยังคงแบนไปหน่อย เสียงร้องจะเป็นลักษณะใสแต่ออกแบนๆหยาบๆหน่อย ต้องใส่ฟองน้ำถึงจะลดความหยาบลงได้ และให้ความรู้สึกมีน้ำมีนวลขึ้น แต่ Image ก็จะลดความคมชัดลงเล็กน้อย และเสียงสูงก็จะหายไปอีกนิดนึง ความโปร่งก็จะลดลง เพราะขนาด image ใหญ่ขึ้น แต่ก็แลกกับเนื้อ และมวลที่จะได้มาอีกหน่อย ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกันไปครับ

เสียงกลางก็ทำได้แน่นดีครับ จุดเ่ด่นอยู่ที่เสียงกลองที่ให้ impact ได้ดี เป็นกลองที่มีรายละเอียด มี texture ที่เด่นชัด ตรงจุดนี้่ผมว่าหูฟังตัวนี้ทำได้ค่อนข้างเกินราคาครับ จะเสียนิดนึงก็ตรงที่เวลามีเสียงชิ้นดนตรีขึ้นเยอะ รายละเอียดของกลองจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนนึงมาจากมิติเสียงกลางที่ไม่ลึกเท่าไหร่ จะไปหนักในเรื่องของ soundstage มากกว่า แถมยังได้ image ที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ย่านเสียงตรงช่วงย่านกลางมันกินกันนิดหน่อย ถ้ามันแยกออกมาเด็ดขาดกว่านี้ ผมจะให้มันเป็น King of earbud ในระดับไม่เกินพันเลยครับ


การถอดฟองน้ำออกจะช่วยให้การ Focus ชิ้นดนตรีดีขึ้นมากๆครับ เพราะ image จะลดขนาดเล็กลง แต่ก็ใกล้หูเรามากขึ้น รายละเอียดของชิ้นดนตรีต่างๆก็มีความชัดเจนมากขึ้น แม้กระทั่งเบสก็กระชับมากขึ้น แต่ถ้าฟังแบบใส่ฟองน้ำก่อน จะรู้สึกว่าเสียงแห้งและบางลง เพราะมวลถูกลดลงไปเยอะ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบครับ ถ้าฟังเพลงเน้นเสียงร้อง อย่าง Susan Wong , Noon หรือ Emi Fujita การถอดฟองน้ำจะช่วยให้เสียงมีความหวานแบบเย็นๆมากยิ่งขึ้นครับ

โดยรวมต้องถือว่าเป็นหูฟังที่คุ้มราคาจริงๆครับ เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่กำลังอยากได้ earbud คุ้มราคาอีกตัวนึง ถือว่าหายากมากๆที่หูฟังระดับราคาไม่ถึง 500 แต่มีรับประกันให้ 1 ปี และเป็นประกันแบบเปลี่ยนตัวใหม่ด้วย ซื้อมาไม่ชอบใจก็ยังไม่เจ็บตัวเลยครับ แม้แต่ผมเองมีเก็บไว้ก็ยังไม่เคยคิดขายใครแม้ไม่ได้ฟัง เพราะเวลาว่างๆผมก็มักหยิบมาฟังเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศอยู่บ่อยหนเลยทีเดียว ไม่มั่นใจว่าเดี๋ยวนี้ยังมีขายอยู่หรือเปล่านะครับ เห็นมีรุ่นใหม่เป็น in-ear ออกมาด้วย ก็ถ้าสนใจลองไปหาฟังดูได้ครับ ตามบู๊ธที่มีสัญลักษณ์ Soken นั่นแหละ ลองไปถามเค้าดูครับ... ราคาอย่าให้เกิน 499 นะครับ ผมโดนมา 699 บอกตามตรงว่าเจ็บใจที่สุด




SPEC

Main Specification of Earplug
Type: Stereo Direct Pull Earplug
Diameter of Speaker : 16mm
Sensitivity: 113db / 1mw ( S.P.L at 1KHZ )
Impedance : 32 ohm
Frequency Response Range : 18HZ-22000HZ
Rated Input: 1mw
Max Input: 5mw
Electric Wire: 3.5mm, 1.3M
Weight: 15g (including wire )