วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Review หูฟัง Sony MDR-EX90

SONY MDR-EX90








Sony MDR-EX90 เป็นหูฟังรูปแบบใหม่ที่เรียกกันว่า Hybrid คือ มีส่วนผสมของความเป็น Earbud และ In-ear ในตัวเดียว จริงๆของก็มาอยู่ในมือผมได้นานแสนนานแล้ว แต่มีหลายๆอย่างทำให้ผมไม่มีโอกาส review ทั้งๆที่ตั้งใจจะ review ตั้งนานแล้ว ส่วนนึงก็เพราะช่วงนั้นของค่อนข้างหายากครับ ประกอบกับผมไม่ว่างและมีหูฟังตัวอื่นเบียดขึ้นมา ตัว Ex90 เลยดูเหมือนจะถูกละเลยไปหน่อย แต่ตอนนี้ ทางศูนย์ Sony แกรับเข้ามาแล้วครับคิดว่าคงหากันไม่ยากแล้ว ผมเลยตัดสินใจ review ซะเลย




ว่ากันด้วยเรื่องรูปลักษณ์ก่อน หูฟังตัวนี้รูปร่างไม่ขี้เหร่เลยครับ ดูดีมีสไตล์อย่างไม่น่าเชื่อ ภายนอกดูเหมือนจะทำด้วยเหล็กแต่ เป็นเหล็กที่หุ้มกับยางอีกทีนะครับ แต่ดูแล้วแข็งแรง ไม่นับสาย
เพราะสายดูบอบบางตามสไตล์ sony แต่ไม่แน่ใจว่าสายเปื่อยไม๊ เพราะเท่าที่ใช้มายังไม่เจออาการสายเปื่อยเลยครับ


สิ่ง ที่หลายๆคนสงสัยก็คือว่า ตกลงหูฟังตัวนี้เป็น In-ear หรือเปล่า ผมตอบให้สำหรับคนสงสัยว่า มันเป็นแบบผสมครับ เป็น Hybrid ระหว่าง in-ear + ear-bud ครับ แถมไม่ใช่แบบ Isolation ที่สามารถกันภายนอกได้ด้วย ดังนั้น รับเสียงภายนอกได้สบายครับ แต่ ไม่มีปัญหาการฟังใดๆครับ ยกเว้นต้องไปอยู่ในที่ที่เสียงดังมากๆ อันนั้นก็เป็นปัญหาเหมือน Ear-bud ทั่วๆไปครับ แต่จริงๆการออกแบบของ Ex90 เค้าจงใจให้ได้ยินเสียงภายนอกด้วยซ้ำ เพราะเท่าที่ผมลองฟังทั้ง E888 และ EX90 ถ้าเกิดฟังในห้องเงียบๆ มันไม่ค่อยเพราะเลยครับ แต่พอไปฟังในที่โล่งๆ มีเสียงคนคุยกัน หรือมีเสียงบรรยากาศให้ได้ยินรอบๆ จะรู้สึกว่ามันเพราะขึ้น มันเหมือนให้ความโปร่งมากยิ่งขึ้น และให้เสียงที่ Match กับเสียงรอบข้างคล้ายๆกับได้ยินคนเปิดเพลงจากลำโพงที่ตั้งอยู่ใกล้ๆตัวเรา ครับ ฟังแล้วก็ได้อารมณ์ดีเหมือนกันครับ สมกับคำว่า NUDE ของแกแหละ ที่เราใส่หูฟังก็เหมือนไม่ได้กำลังใส่อยู่







มาเรื่องของเสียงครับ


สำหรับตัว Ex90 นั้น จะให้ มิติและ Soundstage ที่คล้ายคลึงกับ E888 เลยครับ เรียกว่าเหมือนกันเลยก็ได้ แต่ จะต่างกันตรงที่น้ำหนักของชิ้นดนตรีแต่ละชิ้น ที่ทาง EX90 จะลงได้คมกว่า ชัดกว่า แต่ปลายเสียงใสก็ไม่พริ้วเท่า E888 ผมว่ามันทำให้ฟังเสียงได้หลากแนวมากขึ้นกว่า E888 ครับ แต่ถ้าพูดกันรวมๆ ผมว่า Ex90 แยกชิ้นดนตรีได้ดีกว่า E888 ครับ เพราะ Image ค่อนข้างชัดกว่า E888 อยู่นิดนึงครับ ถ้าเคยฟัง E888 มาตลอดจะพอรู้สึกได้


อีกสิ่งที่ Ex90 ให้มาเพิ่มคือ เบส ครับ เบสของ Ex90 มีน้ำหนักมากกว่าทาง E888 เรียกว่าเพิ่มความ impact มาอีกนิดนึง และเบสจะนิ่งกว่า E888 เยอะครับ ดังนั้นเรื่องของกลองไม่ต้องห่วงครับ ทั้งหนักทั้งแน่นกว่า 888 เยอะ ถ้าเทียบกันในเรื่องของเบสล้วนๆแล้ว E888 จะให้เบสที่ค่อนข้างเบลอ จับไลน์เบสได้ไม่ชัดเท่า Ex90 แต่เบสของ e888 จะนุ่มกว่า และขอบเสียงกระจายได้กว้างกว่า ไม่กระชับและไวเหมือนกับของ Ex90 ซึ่งอันนี้ก็อยู่ที่คนชอบแล้วครับ แต่ผมว่ามันเหมือนกับ rock ดีเลยทีเดียว เสียตรงคุณภาพเบสยังไม่หนักหน่วงเท่า KSC35 , E5C แต่ถ้าไม่เทียบ หรือไม่เคยไปฟังพวกนั้นมาก่อน ก็จะไม่รู้สึกว่ามันน้อยไปแต่อย่างใดครับ อย่างน้อยก็เยอะกว่า E888 แล้วกัน



ผมว่าตัว Ex90 เป็นตัวที่ให้ Dynamic-range ที่ใช้ได้ทีเดียวครับ เพลงไม้ตายผมอย่าง Way down Deep ที่ไว้เช็คทั้งเบสทั้ง Dyniamic โดยเฉพาะช่วงปลายของ มิติเสียงกลาง เพลงนี้นี่ถ้าหูฟัง Dynamic ไม่ดีมา จะรู้ได้เลยครับ เพราะปลายๆเสียงมันจะบางจนแทบไม่ได้ยิน แต่ Ex90 คงระยะและเสียงได้ดีครับ เสียงไกลๆไม่บางจนไม่ได้ยิน แล้วก็ไม่ได้ชัดจนเสียมิติไป สำหรับเรื่อง Dynamic ให้ผ่านเลยครับ


เรื่องไลน์ของกีต้าร์ก็ทำได้ค่อนข้างดีครับ เรียกว่าชัดเจนคมกระจ่างทีเดียว เสียตรงยังให้เสียงได้ไม่คมและชัดเท่ากับ MS-2 ถ้าเบสและกีต้าร์ได้ระดับ Ms-2 ล่ะแจ๋วเลยครับ ผมคงไม่หาหูฟังตัวอื่นใช้เลยล่ะ คงรัก sony ขึ้นอีกเยอะ 555 แต่อย่างว่า มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับ


ในเรื่องของเสียงสูงนั้น ด้วยความที่ตัวนี้ให้เสียงที่กระชับทุกย่าน ดังนั้นปลายใสจะไม่กังวาลพริ้วทอดตัวไปเรื่อยๆ แต่จะโดนหยุดเสียงให้มันฟังกระชับฉับไว ดังนั้นบางทีจะให้ความรู้สึกว่ามันแข็งๆไปนิด แต่ผมว่า มันก็ให้น้ำเสียงตามรูปลักษณ์ภายนอกมันดีนะครับ เสียงจะออกสไตล์เหล็กๆนี่แหละครับ เพียงแต่ไม่กังวาลเท่านั้น แต่โดยรวมออกใสแน่นอนครับไม่ต้องห่วง ทั้งโปร่ง ทั้งใสเลยครับ เนื้อเสียงก็ไม่หยาบเหมือนทาง KSC35 ด้วยครับ เสียงฟังดูสะอาดกว่า 35 เยอะด้วยครับ แต่เบสมิอาจจะไปเทียบเทียมได้


จากความรู้สึกผม ผมคิดว่าหูฟังตัวนี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มระดับของ E888 ขึ้นไปอีกขั้น เพราะเน้นที่ความคมชัดมากขึ้น สำหรับตัวนี้ผมว่า มันขยายแนวการฟังให้มากขึ้นจาก E888 ที่เน้นอารมณ์นุ่มเบา พริ้วสบายๆ มาเป็นเพิ่งน้ำหนัก ความชัด ความคมให้มากขึ้น พร้อมสำหรับการฟังแนวเพลงอย่าง rock , hip-hop ...etc. จริงๆถ้าเพิ่มเบสอีกหน่อยให้พอๆกับ MX90C จะถือว่าเป็นหูฟังที่ดีเยี่ยมตัวนึงเลยครับ แต่เท่านี้ก็ดีพอสำหรับผมแล้วล่ะ







SPEC

Type : Closed Dynamic
Driver Units : 13.5mm
Power handling capacity : 200mW
Impedance : 16 ohm ( at 1kHz )
Sensitivity : 106 dB/mW
Frequency Response : 5 - 25,000 Hz
Cord : Approx. 1.2m

3 ความคิดเห็น:

KangFa กล่าวว่า...

พอให้วิธีการ Burn หูฟังตัวนี้แบบพอสังเขปได้ไหมครับ
เพราะไปได้ของมือ 2 แบบที่เค้าเพิ่งซื้อมา ฟังแปบนึง
แล้วปล่อยเลยหน่ะครับ

G7 กล่าวว่า...

ปรกติการ burn นี่ ถ้าโดยส่วนตัวผมจะใช้ File Pre Burn อัดไปที่ 8 ชั่วโมง แล้วค่อยเปิดเพลง Classic ซ้ำที่ 80 ชั่วโมง ถึง 100 ชั่วโมงครับ

แต่ถ้าฟังปรกติทั่วไป ก็ลองใช้พวกเพลง Dance แบบ nonstop burn ไว้ซัก 40 ชั่วโมง แล้วค่อยใช้เพลง Classic burn ต่ออีกก็ได้ครับ

ลองดูแล้วกันครับ ว่าแต่ได้มาเท่าไหร่เหรอครับ แล้วก็ระวังของปลอมนิดนึงนะครับ รุ่นนี้ปลอมเยอะครับ

KangFa กล่าวว่า...

ได้มา 2500 ครับผม
เป็นหูฟังตัวแรกที่ราคาเกิน 1000 สำหรับผม

เป็นของมือ 2 จากของร้านเฮียมั่นครับ
ผมลองๆดูแล้วก็ว่าเป็นของแท้แน่ๆครับ ของครบๆครับ
เสียงที่ได้ก็ทำให้ผมพึงพอใจ
และทำให้ผมฟังเพลงสนุกมากขึ้น ^^ ชอบครับ
และพยายามจะไม่ไปฟังตัวอื่นๆอีกหลายพักแน่ๆ
เดี๋ยวเป็นเรื่อง

ว่าไปแล้ว ทำไมถึงต้อง burn ด้วยเพลง classic
ต่อหรอครับ แล้ว classic นี่คือพวก orchestra ใช่ไหมครับ