Grado Alessandro MS-1
ถ้าคุณบอกว่า SR60 ดีพอแล้ว
ยังครับ มันยังไม่ดีพอ
ถ้าคุณบอกว่า SR80 มันดียอดจะแย่แล้ว
ยังครับ มันยังไม่ดีพอ
อ้าว!! แล้วอะไรดีกว่าล่ะ
ถ้าคุณบอกว่า SR60 ดีพอแล้ว
ยังครับ มันยังไม่ดีพอ
ถ้าคุณบอกว่า SR80 มันดียอดจะแย่แล้ว
ยังครับ มันยังไม่ดีพอ
อ้าว!! แล้วอะไรดีกว่าล่ะ
แน่นอนครับ มันก็ต้อง Grado RS-1 !!! อึ๋ย... ไม่ใช่สิ มันต้อง นี่เลยครับ Alessandro MS-1 !!!
แล้วมันต่างกับ SR60 และ SR80 ตรงไหนล่ะ มันต่างกันตรงนี้ครับ ตรงความนุ่มนวลครับ...
อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า เสียงของ SR60 จะให้เบสที่อวบอิ่ม ในขณะที่ SR80 มันจะให้ความ Bright ความสว่างสดใสของเสียง แต่ตัวนี้ครับ MS-1 แทรกลงมาตรงกลางระหว่างคู่หูทั้งสองครับ แต่ เบสเด็ดกว่า SR60 ครับ ตรงที่มีความนุ่มนวล เป็นเบสสไตล์นุ่มๆ ในขณะที่ด้านเสียงใสไม่ได้ด้อยไปกว่า SR80 เลยครับ ( แต่ไม่ Bright เท่านะครับ เพราะเสียงคนละสไตล์กัน ) เสียงที่ออกมาจะเป็นแบบ 3 มิติเลยครับ คือเบสจะร่นไปอีกมิตินึง Vocal ก็จะออกมาอีกจุดนึง sound อื่นๆก็แยกไปตามตำแหน่งของตัวเอง ทำให้ไม่มีการออกมากวนซึ่งกันและกันเลยครับ เวลาฟังนะครับ ช่วงจังหวะเบสลงมันจะนุ่มมม.... แต่ก็ไม่ทำลายเสียง Vocal ที่กำลังคลอตามดนตรีชิ้นอื่นๆ มันจะลงลึกนวลๆ แต่ไม่ดำดึ่งลึกซึ้งเหมือน Hd650
คล้ายน้ำหยดจากที่สูง เวลาลงดิ่งเรื่อยๆ เรื่อยๆ เมื่อถึงผืนน้ำก็จะแตกกระจายออกบางๆ แต่ของ senheiser มันจะเหมือนกันก้อนน้ำแข็งที่หล่นลงมาจากที่สูง แล้วค่อยๆดิ่งลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ เมื่อสัมผัสผืนน้ำ มันก็ยังจะดำดิ่งลงต่อไปอีก จนหมดหนทางที่จะไป มันก็จะค่อยๆละลายกระจายปนไปพร้อมกันผืนน้ำครับ
เรื่องเสียงกีต้าร์ก็ค่อนข้างเด่นชัดครับ เสียงกรีดนิ้วลงไปในแต่ละเส้นสายค่อนข้างชัดและได้อารมณ์มากๆเลยครับ ยิ่งจังหวะเกาของกีต้าร์ Classic เสียงจะออกนุ่มนวล ละมุนละไม คล้ายๆกับมีคนหยิบเอากีต้าร์สเปนที่ทำด้วยไม้มะฮอกกานีเนื้อไม้แบบหนา มาเกาให้ฟังตรงหน้า เสียงมันจะแน่น นุ่มนวล และใส ถ้าเทียบกับ SR-80 เสียงกีต้าร์ของทางนั้นจะออกสไตล์กีต้าร์แบบเนื้อไม้บางหน่อย เสียงเลยจะออกโปร่ง และเบาๆ ครับ แต่เส้นเสียงของกีต้าร์จะออกแหลมกว่า MS-1 เยอะ
เสียงกลองก็ทำได้ดีมากๆครับ ถ้าเอาเสียงกลองมาเทียบกับ KSC35 จะรู้สึกได้เลยว่าคนละเรื่องกันครับ มันจะออกไปคนละโทนเลยครับ เพราะเสียงที่ได้จาก MS-1 ความรู้สึกเวลาได้ยินเสียงไม้กระทบหน้าหนังกลองมันจะสั่นสะเทือนแน่นๆลึกๆ ครับ ในขณะที่ของ KSC35 จะออกโปร่งๆกว่า ความเป็นอรรถรสของเสียงกลองยังให้ได้ไม่เท่า MS-1 ครับ ยิ่งเสียงการตีกลองใหญ่ เสียงกังวานโทนต่ำของกลองมันดิ่งลึกและกระจายออกบางๆ ถ้าฟังจาก MS-1 จะรู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจนเลยครับ
เรื่อง soundstage ถ้าเป็นตระกูล GRADO ผมว่ามันพอๆกันหมดแหละครับ แต่ว่า จุดต่างมันอยู่ที่ น้ำเสียงที่มันทำได้ครับ อย่าง RS-1 ไม่ต้องพูดถึงครับ แพ๊งแพง หูอะไร .... โดยปรกติแล้ว เสียงของหูฟังระดับ Hi-End โดยเฉพาะของทาง Grado รูปแบบของเสียงที่เป็นสไตล์เดียวกัน มักจะหนีกันไม่เยอะครับ ( สไตล์ในที่นี้อย่าง SR-80 เน้นเรื่องเสียงใส แต่ SR-60 เน้นเรื่องเสียงทุ้ม ซึ่งจะตีคู่กันไปเป็นรุ่นๆครับ)
ในเรื่องของ Dynamic นั้นไม่ต้องห่วงครับ หูฟัง soundstage กลางๆ ไม่แคบไม่กว้างอย่าง Grado ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของ Dynamic ครับ เสียงกลางก็มีน้ำหนัก ชัดเจนไม่พร่ามัว ช่วงปลาย Dynamic-Range ก็ได้ยินชัดเจนครับ
จุดด้อยจะเป็นในเรื่องของมิติเสียงกลางครับ เพราะยังทำได้ไม่ดีนัก การแยกชิ้นดนตรีก็ยังคลุมเครือ แยกออกได้ไม่ชัดเจน ถ้าเพลงช้าๆไม่เท่าไหร่ แต่ถ้า sound ขึ้นมาเยอะๆพร้อมๆกันล่ะ คุณเอ๋ย ตีกันมั่วเลยครับ เรื่องการแยกชิ้นดนตรีนี่ Ms-2 จะทำได้ดีกว่ามากๆครับ สามารถรับรู้ถึงตำแหน่งของชิ้นดนตรีตรงช่วงมิติเสียงกลางได้ดีกว่ากันมากๆ ตัว MS-1 นี่จะออกละมุนกว่าทาง Ms-2 ครับ เพราะทางนั้นเค้าเน้นในเรื่อง Detail มากกว่า และเบสของ Ms-2 impact กว่า MS-1 ครับ ตัว MS-1 จะให้เบสที่ละมุนละไมกว่าครับ
ถ้าชอบเบส ตัวนี้อาจจะยังให้เบสไม่ถูกใจนักครับ เพราะเบสไม่ได้ impact เหมือนกับที่ SR-60 ทำได้ ผมว่า SR-60 เบสจะ impact กว่าตัวนี้ครับ แต่ MS-2 impact สุดครับ ( ส่วน 225 นี่ผมยังไม่ได้ลองผ่านแอมป์เลยไม่กล้าตอบว่ามันจะ impact กว่า MS-2 หรือเปล่า เพราะเห็นเค้าว่ากันว่ามันให้เบสที่ดีกว่า Ms-2 ครับ ) เบสของ Ms-1 จะนุ่มๆ ไม่รุนแรงนัก เหมาะสำหรับฟังเพลงช้าๆที่ไม่เน้นเบสอะไรมากมายครับ ถ้าจะฟังเพลงร๊อคก็ไม่ขี้เหร่แต่อย่างใด เรียกว่า พอจะลุยไหวครับ
ยังไงอย่าลืมฟังก่อนซื้อเสมอครับ
SPEC
Transducer type : Dynamic
Operating principle : Open air
Frequency response : 20 - 22K Hz
SPL lmV : 100
Nominal impedance : 32 Ohms
Driver match db : 0.1
Features : - Vented diaphragm
- Non resonant air chamber
- UHPLC voice coil wire
- Standard copper connecting cord
แล้วมันต่างกับ SR60 และ SR80 ตรงไหนล่ะ มันต่างกันตรงนี้ครับ ตรงความนุ่มนวลครับ...
อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า เสียงของ SR60 จะให้เบสที่อวบอิ่ม ในขณะที่ SR80 มันจะให้ความ Bright ความสว่างสดใสของเสียง แต่ตัวนี้ครับ MS-1 แทรกลงมาตรงกลางระหว่างคู่หูทั้งสองครับ แต่ เบสเด็ดกว่า SR60 ครับ ตรงที่มีความนุ่มนวล เป็นเบสสไตล์นุ่มๆ ในขณะที่ด้านเสียงใสไม่ได้ด้อยไปกว่า SR80 เลยครับ ( แต่ไม่ Bright เท่านะครับ เพราะเสียงคนละสไตล์กัน ) เสียงที่ออกมาจะเป็นแบบ 3 มิติเลยครับ คือเบสจะร่นไปอีกมิตินึง Vocal ก็จะออกมาอีกจุดนึง sound อื่นๆก็แยกไปตามตำแหน่งของตัวเอง ทำให้ไม่มีการออกมากวนซึ่งกันและกันเลยครับ เวลาฟังนะครับ ช่วงจังหวะเบสลงมันจะนุ่มมม.... แต่ก็ไม่ทำลายเสียง Vocal ที่กำลังคลอตามดนตรีชิ้นอื่นๆ มันจะลงลึกนวลๆ แต่ไม่ดำดึ่งลึกซึ้งเหมือน Hd650
คล้ายน้ำหยดจากที่สูง เวลาลงดิ่งเรื่อยๆ เรื่อยๆ เมื่อถึงผืนน้ำก็จะแตกกระจายออกบางๆ แต่ของ senheiser มันจะเหมือนกันก้อนน้ำแข็งที่หล่นลงมาจากที่สูง แล้วค่อยๆดิ่งลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ เมื่อสัมผัสผืนน้ำ มันก็ยังจะดำดิ่งลงต่อไปอีก จนหมดหนทางที่จะไป มันก็จะค่อยๆละลายกระจายปนไปพร้อมกันผืนน้ำครับ
เรื่องเสียงกีต้าร์ก็ค่อนข้างเด่นชัดครับ เสียงกรีดนิ้วลงไปในแต่ละเส้นสายค่อนข้างชัดและได้อารมณ์มากๆเลยครับ ยิ่งจังหวะเกาของกีต้าร์ Classic เสียงจะออกนุ่มนวล ละมุนละไม คล้ายๆกับมีคนหยิบเอากีต้าร์สเปนที่ทำด้วยไม้มะฮอกกานีเนื้อไม้แบบหนา มาเกาให้ฟังตรงหน้า เสียงมันจะแน่น นุ่มนวล และใส ถ้าเทียบกับ SR-80 เสียงกีต้าร์ของทางนั้นจะออกสไตล์กีต้าร์แบบเนื้อไม้บางหน่อย เสียงเลยจะออกโปร่ง และเบาๆ ครับ แต่เส้นเสียงของกีต้าร์จะออกแหลมกว่า MS-1 เยอะ
เสียงกลองก็ทำได้ดีมากๆครับ ถ้าเอาเสียงกลองมาเทียบกับ KSC35 จะรู้สึกได้เลยว่าคนละเรื่องกันครับ มันจะออกไปคนละโทนเลยครับ เพราะเสียงที่ได้จาก MS-1 ความรู้สึกเวลาได้ยินเสียงไม้กระทบหน้าหนังกลองมันจะสั่นสะเทือนแน่นๆลึกๆ ครับ ในขณะที่ของ KSC35 จะออกโปร่งๆกว่า ความเป็นอรรถรสของเสียงกลองยังให้ได้ไม่เท่า MS-1 ครับ ยิ่งเสียงการตีกลองใหญ่ เสียงกังวานโทนต่ำของกลองมันดิ่งลึกและกระจายออกบางๆ ถ้าฟังจาก MS-1 จะรู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจนเลยครับ
เรื่อง soundstage ถ้าเป็นตระกูล GRADO ผมว่ามันพอๆกันหมดแหละครับ แต่ว่า จุดต่างมันอยู่ที่ น้ำเสียงที่มันทำได้ครับ อย่าง RS-1 ไม่ต้องพูดถึงครับ แพ๊งแพง หูอะไร .... โดยปรกติแล้ว เสียงของหูฟังระดับ Hi-End โดยเฉพาะของทาง Grado รูปแบบของเสียงที่เป็นสไตล์เดียวกัน มักจะหนีกันไม่เยอะครับ ( สไตล์ในที่นี้อย่าง SR-80 เน้นเรื่องเสียงใส แต่ SR-60 เน้นเรื่องเสียงทุ้ม ซึ่งจะตีคู่กันไปเป็นรุ่นๆครับ)
ในเรื่องของ Dynamic นั้นไม่ต้องห่วงครับ หูฟัง soundstage กลางๆ ไม่แคบไม่กว้างอย่าง Grado ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของ Dynamic ครับ เสียงกลางก็มีน้ำหนัก ชัดเจนไม่พร่ามัว ช่วงปลาย Dynamic-Range ก็ได้ยินชัดเจนครับ
จุดด้อยจะเป็นในเรื่องของมิติเสียงกลางครับ เพราะยังทำได้ไม่ดีนัก การแยกชิ้นดนตรีก็ยังคลุมเครือ แยกออกได้ไม่ชัดเจน ถ้าเพลงช้าๆไม่เท่าไหร่ แต่ถ้า sound ขึ้นมาเยอะๆพร้อมๆกันล่ะ คุณเอ๋ย ตีกันมั่วเลยครับ เรื่องการแยกชิ้นดนตรีนี่ Ms-2 จะทำได้ดีกว่ามากๆครับ สามารถรับรู้ถึงตำแหน่งของชิ้นดนตรีตรงช่วงมิติเสียงกลางได้ดีกว่ากันมากๆ ตัว MS-1 นี่จะออกละมุนกว่าทาง Ms-2 ครับ เพราะทางนั้นเค้าเน้นในเรื่อง Detail มากกว่า และเบสของ Ms-2 impact กว่า MS-1 ครับ ตัว MS-1 จะให้เบสที่ละมุนละไมกว่าครับ
ถ้าชอบเบส ตัวนี้อาจจะยังให้เบสไม่ถูกใจนักครับ เพราะเบสไม่ได้ impact เหมือนกับที่ SR-60 ทำได้ ผมว่า SR-60 เบสจะ impact กว่าตัวนี้ครับ แต่ MS-2 impact สุดครับ ( ส่วน 225 นี่ผมยังไม่ได้ลองผ่านแอมป์เลยไม่กล้าตอบว่ามันจะ impact กว่า MS-2 หรือเปล่า เพราะเห็นเค้าว่ากันว่ามันให้เบสที่ดีกว่า Ms-2 ครับ ) เบสของ Ms-1 จะนุ่มๆ ไม่รุนแรงนัก เหมาะสำหรับฟังเพลงช้าๆที่ไม่เน้นเบสอะไรมากมายครับ ถ้าจะฟังเพลงร๊อคก็ไม่ขี้เหร่แต่อย่างใด เรียกว่า พอจะลุยไหวครับ
ยังไงอย่าลืมฟังก่อนซื้อเสมอครับ
SPEC
Transducer type : Dynamic
Operating principle : Open air
Frequency response : 20 - 22K Hz
SPL lmV : 100
Nominal impedance : 32 Ohms
Driver match db : 0.1
Features : - Vented diaphragm
- Non resonant air chamber
- UHPLC voice coil wire
- Standard copper connecting cord
11 ความคิดเห็น:
Ipod Touch นี้สามารถ ขับได้หมด หรือ ป่าวครับ
ต้องใช้ Amps ช่วยหรือป่าวครับ
พอดี มัน งบไม่ค่อยจะพออ่ะครับ Fiio E3 E5 นี้พอได้ไหมครับ
พอดีเห็นใน sanookgadget เค้า ขายเป็น set Sr 60i+ E3
น่าสนใจดี เเต่พอมาดู review G7 แล้วเพิ่มอีกนิดได้ Ms1i
ก็เลยสนใจ
แนวเพลง ก็ พูดไง ดีอ่ะ คือ ผมชอบฟัง Utada อ่ะครับตั้งเเต่ ชุดแรก ยัน ชุดล่าสุดเลยครับ
ตัวนี้ใช้ได้ไหมครับ หรือต้องFull Size ตัวอื่น
ไม่เน้นพกพาครับ ฟังอยู่ที่บ้าน เพราะมี Cx500 อยู่เเล้ว
สี่พัน นักเรียนอย่างผม หนาวๆ ร้อนๆ มีงบ ห้าพันครับ
เเน่ะนำด้วยครับ
MS-1 คงจับกับ Fiio ไม่เหมาะครับ ถ้าเป็น SR60i จะเหมาะกับ Fiio กว่าครับ อีกอย่าง MS-1 ไม่มีประกันนะครับ ในขณะที่ SR60i มีประกัน 1 ปีครับ
ชอบ Utada ถ้าเป็น in-ear น่าจะลอง ATh-CKM55 มากกว่า CX500 นะครับ ส่วน fullsize ผมว่า แค่ SR60i ก็น่าจะโอเคนะครับ เพราะเพลง Utada จะเน้นออกแนว Pop-dance เอาชุด SR60i ที่เค้าขายคู่กับ Fiio ก็โอเคแล้วครับ เพราะถ้าเล่น Ms-1 จริงๆ ทะลุ 5000 แน่นอนครับ
พูดตามตรงคือ iPOD Touch มันขับพอได้ครับ แต่อัดมิด Volume เลยละครับ
เเล้วถ้ามี Acoustic และ Classic ด้วยละครับ ต้องเป็นตัวไหนอ่ะครับ [FS]
แล้วต้องใช้ Apms อะไรอ่ะครับ จะได้เก็บเงินซื้อในอนาคต [บอกราคาด้วยก็ดีนะครับจะได้เก็บถูก]
ตอนนี้ก็ต่อตรงไปก่อน
ขอบคุณมากครับ ที่มาช่วย ให้ความคิดเห็น
ถ้าสาย Grado ก็คงต้อง MS2i ครับ
แต่ถ้า Classic เอาจริงๆ ยังไงก็ต้อง AKG K701,K702 เท่านั้นครับ เหมาะมากๆ
ส่วนแอมป์พูดยากครับ โดยส่วนตัวผมว่า Graham Salee Voyager น่าจะเหมาะสุดครับ
ึ701 702 แนวเสียงเดียวกันใช้ไหมครับ จะกัดฟันซื้อหูก่อน ส่วน Amps จะตามมาที่หลัง[นานหน่อย]
พอจะทราบราคาที่ Austria ไหมครับ รู้สึกว่ามีคนรู้จัก
จะไป แล้วอยากเทียบราคาดูว่าต่างกันเท่าไร
ลองดูตามเวป มือสองรู้สึกว่าจะหายาก
ขอบคุณมากนะครับ
คนละแนวเลยครับ แต่ AKGK701, K702 เสียงจะกว้างโปร่ง โล่ง ฟังสบาย เบสกำัลังพอดี พอดี ไม่รุนแรงหรือขาดหายไป เสียงแหลมชัดดีมาก ส่วนราคาเห็นว่าที่อเมริกาถูกครับ ที่ Austria น่าจะแพงกว่านะครับ
ไปอ่านมาว่า ถ้า 701 ไม่มีAmps มันไม่ได้ ใช้ม่ะครับ
เเล้วไปอ่านมา รู้สึกว่า Ampsที่คู่กับตัวนี้ นี้แพงมาก
เอา YAMAHA EMX512SC เพาเวอร์มิกเซอร์ ไปใช้เเทนก่อนได้ป่ะครับ พอดีที่บ้าน มีอยู่อ่ะ
รู้สึกเริ่มจะไ่ม่มีปัญญาเล่น 701 ซะเเล้ว
ที่บ้านทำอะไรครับ ไหงมี Mix ด้วย
จริงๆมันใช้งานคนละวัตถุประสงค์น่ะครับ ถามว่าแทนได้ไม๊ ก็พอได้ครับแต่เสียงมันจะไม่ Match กับ 701 นะครับ เสียงที่ออกมาก็จะไม่ดีครับ
701 มันเป็นหูฟังที่เรื่องมาก มากๆครับ แต่ถ้าจัดให้ match ได้ มันจะสุดยอดครับ
อยากทราบว่ารุ่น MS-1i ถ้าไม่มีแอมป์จะใช้เล่นกับโทรศัพท์ ได้ไหมครับ
ได้ครับ อยู่ที่ว่าโทรศัพท์อะไรด้วยน่ะครับ เพราะโทรศัพท์บางรุ่นก็กำลังขับแย่มากครับ แต่ถ้าจะให้ดี ซื้อ Fiio E1 มาต่อก็จะช่วยเรื่องกำลังขับได้เยอะทีเดียวครับ ราคาก็ไม่แพงด้วย
ควยในหล
แสดงความคิดเห็น