วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

|| REVIEW ||  OPPO HA-2 Dac/Amp ที่มาพร้อมเสปคขั้นเทพแบบจัดเต็ม!!!



 OPPO  HA-2 





จริงๆแบรนด์ OPPO กับพวกเครื่องเสียงในระดับ Hi-End นั้น ผมมักจะไม่ค่อยให้ความเชื่อมั่นเท่าไหร่ เพราะผมเชื่อมั่นว่าแบรนด์นี้เก่งจริงๆเฉพาะตระกูลพวกภาพมากกว่า ซึ่งคนที่เล่น Home Cinema แบบจริงๆย่อมรู้จักแบรนด์ OPPO ดี ( ไม่นับมือถือนะครับ ) เพราะด้านการเล่นหนังแล้ว ถือเป็นแบรนด์ระดับท๊อปๆเลยทีเดียว

แต่น่าแปลกว่าหลังจากลุยตลาดมือถือแล้ว ดันลงมาลุยจริงจังในตลาด Headphone ซะด้วย เพราะเปิดตัวมาพร้อมหูฟังระดับ Hi-End อย่างรุ่น "PM-1" ที่เลือกใช้ driver แบบ "Planar Magnetic" มาเป็นตัวชูโรง พร้อมกับเปิดตัว HA-1 ซึ่งเป็น DAC/ AMP ระดับเทพ ที่รองรับ DSD ในระดับ 256 และยังมี Bluetooth ที่รองรับ apt-X codec อีกด้วย น่าจะเป็น DAC ตัวแรกๆ built in มาพร้อมสรรพขนาดนี้ ในขณะที่ราคาก็มาแรงทั้งคู่ เปิดตัวไม่ธรรมดาเช่นกัน น่าเสียดายที่ดึงดันจะใช้ชื่อแบรนด์ OPPO เหมือนเดิม เลยทำให้ดูแป้กๆไปหน่อยสำหรับบ้านเรา


วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

[ Review ] " TIAMAT " อุปกรณ์ชนิดใหม่ที่จะมาพลิกโฉมวงการฟังเพลง

TIAMAT






เคยไม๊ครับที่เวลาฟังเพลงแล้วรู้สึกหงุดหงิดที่คุณภาพเสียงไม่เป็นไปตามที่ต้องการ โดยเฉพาะเวลาใช้กับพวก MP3 player ทั้งหลาย ซึ่งถ้าเป็น iPOD ก็จะยังมีทางเลือกโดยการเอา DAC มาช่วยปรับปรุงเรื่องคุณภาพเสียง แต่ถ้าเป็น MP3 player แบบ no name ละ  ?  และยังมีอีกหลายๆแบรนด์ที่ไม่มี DAC มา support อีกอย่าง การพก DAC และ AMP เพิ่มมันก็ดูยุ่งยากเกะกะต่อการพกพา

ผมเลยมีไอเดียที่จะทำอุปกรณ์ที่พกพาสะดวกและให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจมาจากสายต่อที่มักจะแถมมากับหูฟังในยุคก่อนๆ เพราะพวกสายต่อพวกนี้มักจะมีผลกับคุณภาพเสียงอย่างมาก ผมเลยพยายามค้นคว้าดูว่าจะมีทางไหนที่จะทำให้ของพวกนี้ทำให้เสียงดีขึ้นได้ จนสำเร็จกลายมาเป็น “ TIAMAT “ นี่แหละครับ

วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[ รีวิว ] Ferrari CALVALLINO G150i " The Art Of In-Ear"

 FERRARI  G150i 





                หลังจากที่ได้รีวิวรุ่นพี่กันไปบ้างแล้ว คราวนี้เรามาดูรุ่นน้องที่เป็น in-ear กันบ้าง ตัว in-ear เองผมเลือกเอา CALVALLINO series มารีวิวเพราะอีกซีรี่ย์นึงเค้าไม่ได้ให้มานั่นเอง ตัวรุ่น in-ear ที่ได้มาคือรุ่น G150i ซึ่งเป็นรุ่นที่เป็น Control Talk นั่นเอง คือจะมีทั้งไมค์และส่วนของ Control มาให้ด้วย แต่น่าเสียดายที่มันไม่ support ตระกูล Android ดังนั้นเต็มที่เราก็จะใช้ได้แค่ Fuction หยุดเพลง กับ เริ่มเพลงเท่านั้นเอง ไม่สามารถเพิ่มหรือลดเสียงได้ แต่ถ้าคนใช้ iPhone , iPad , iPod touch นี่ไม่มีปัญหาใดๆเลยครับ น่าแปลกนิดนึงตรงที่มันไม่สามารถใช้ fuction ใดๆได้เลยกับ iPOD Classic ตัว 80Gb ไม่มั่นใจว่ากับรุ่นล่าสุดอย่าง 120gb จะมีปัญหาด้วยหรือเปล่าเพราะผมไม่มีไว้ทดสอบ ใน website ของทาง Logic3 เองก็ระบุไว้ว่า support iPOD Classic (2009) ดังนั้นตามหลักมันควรจะใช้ได้ แต่เอาเข้าจริงๆมันดันไม่ทำงานซะอย่างนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

< Review > [[ MTX StreetAudio ]] The Pretty Fly On The Ear

 MTX   STREETAUDIO iX1 








      บ้านเราถ้าไม่ใช่นักเล่นเครื่องเสียงรถ คงจะไม่มีใครรู้จักแบรนด์นี้เป็นแน่แท้ ขนาดผมเองยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยครับ แต่ในระดับเครื่องเสียงรถยนต์ผมก็เห็นมีคนเค้าเล่น MTX กันพอสมควรนะครับ น่าจะใกล้ๆกับ DLS แต่แนวเสียงนี่คนละทิศทางกันเลย
      
        MTX จริงๆเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่อง subwoofer มาก จนมันกลายเป็น signature ของตัวเองแล้วว่า ถ้ามาทาง MTX ก็ต้องเป็นสาย Bass Head ซึ่งแต่เดิมตัว MTX เองก็ทำทั้งดอกลำโพง และ แอมป์แบบครบวงจรอยู่แล้ว การเพิ่ม line ของหูฟังเข้าไปก็เพื่อขยายตลาดใหม่นั่นเอง ก็เลยว่าเป็นการโปรโมทหาลูกค้าจากตลาดใหม่ เพราะถ้าคนใช้ Happy กับหูฟัง ก็ย่อมจะอยากเลือกใช้เครื่องเสียง MTX มาติดรถตัวเองเช่นเดียวกัน

วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

[ รีวิว ] สุดยอดหูฟังสไตล์สปอร์ตที่เกิดมาเพื่อคนรักความเร็ว Ferrari Scuderia P200

   Ferrari Scuderia  P200  








           ชื่อ Logic3 น่าจะไม่เป็นที่คุ้นเคยในบ้านเรา แต่ตัว Logic3 เองก็ค่อนข้างจะเป็นบริษัทใหญ่ทางฝั่งประเทศอังกฤษ โดยปรกติก็จะทำ Accessory สำหรับมือถือ และ อุปกรณ์สำหรับนักเล่นเกมส์ แน่นอนว่าสินค้าหลักๆจะเป็นพวกเคส , Docking และจอยเกมส์ ซึ่งก็จะมีหูฟังบ้างแต่จะเป็นพวก Headset มากกว่า แต่เมื่อถึงจุดที่จะต้องก้าวไปสู่จุดที่สูงขึ้น ทาง Logic3 จึงตัดสินใจที่จะลงมาลุยในตลาดที่เป็น Segment ของ Hi-End Fashion ดูบ้าง แน่นอนว่าเจ้าตลาดใน segment นี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล นั่นก็คือ “Beat By Dr.Dre” นั่นเอง การจะเอาชนะ Beat ในขณะที่ตัวเองยังเพิ่งตั้งไข่มันจึงเป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีอะไรเป็นแรงดึงดูดให้คนมาสนใจในสินค้าของตัวเองได้ ดังนั้นทาง Logic3 จึงฟอร์มทีมพิเศษเพื่อผลิตหูฟังระดับ Hi-End และตัดสินใจเลือกเอาแบรนด์ที่ทุกคนบนโลกนี้รู้จักกันดีนั่นก็คือ “Ferrari” มาเป็นสินค้าตัวแรกเพื่อสร้าง Brand image ให้กับ Logic3 โดยเฉพาะ